
Infographic # 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครบ 100 วัน นับตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน สถานการณ์ที่ยังยืดเยื้อต่อเนื่องทำให้หลายธุรกิจต้องประกาศเลิกกิจการ หรือขอปิดกิจการเป็นการชั่วคราว
.
.
นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกถล่มยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565 ส่งผลให้แบรนด์ดังระดับโลกบางส่วน เริ่มขอถอนตัวออกจากการทำธุรกิจในประเทศรัสเซีย หรือขอปิดกิจการชั่วคราว
.
.
Hermès มีร้าน 3 สาขาในประเทศรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงมอสโกทั้งหมด เว็บไซต์ WWD เผยว่า Hermès เป็นแบรนด์แรกที่ยอมออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ
.
.
บริษัทเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกจากประเทศสเปนอย่าง Inditex ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Zara, Zara Home, Pull and Bear, Massimo Dutti, Bershka, Oysho, Stradivarius และ Uterqüe ก็ได้ทำตามเช่นกัน โดยปิดร้านทั้งหมด 502 สาขา และระงับบริการช้อปปิ้งออนไลน์
.
.
ต้นเดือนมี.ค. บริษัทแอปเปิล ประกาศระงับการขายสินค้าต่างๆในรัสเซีย และจะจำกัดการใช้งานบริการ “แอปเปิลเพย์” บริการอื่นๆในรัสเซียลง
.
.
IKEA บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวียน ประกาศหยุดดำเนินการชั่วคราวในรัสเซียและเบลารุส รวมถึงหยุดดำเนินการค้าปลีกในรัสเซีย ซึ่งมีสาขามากถึง 17 แห่ง
.
.
เอ็กซอนโมบิล บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐประกาศค่อยๆถอนกิจการออกจากบ่อน้ำมันในรัสเซียซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1995 โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากบริษัทน้ำมัน “บีพี” และ “เชลล์” ของอังกฤษ ประกาศถอนตัวจากรัสเซียไปก่อนหน้านี้
.
.
แฮมเบอร์เกอร์ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันอย่าง "แมคโดนัลด์" ประกาศยุติการดำเนินธุรกิจในรัสเซีย และได้เริ่มขายร้านบางส่วนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ "แมคโดนัลด์" ได้ประกาศปิดร้านมากกว่า 850 สาขาชั่วคราวเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นการปิดฉากการดำเนินกิจการในรัสเซียมานานมากกว่า 30 ปี นับตั้งแต่เปิดร้านแรกในกรุงมอสโก เมื่อปี 2533
.
.
จนล่าสุดถึงคิวของ Starbucks ร้านกาแฟเบอร์ 1 ของโลก ที่ประกาศปิดสาขาในรัสเซียทั้งหมดกว่า 130 สาขา หลังดำเนินกิจการมากว่า 15 ปี ก่อนหน้านี้ Starbucks ได้หยุดดำเนินงานทั้งหมดในรัสเซียชั่วคราว โดยระงับกิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมด ตั้งแต่การจัดส่งวัตถุดิบ รวมไปถึงปิดสาขาเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา
.
.
รัสเซียมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับที่ 11 มีงบประมาณทางทหารมากที่สุดอันดับที่ 5 ของโลก รัสเซียยังเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ โดยนอกจากเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลกแล้ว รัสเซียยังส่งออกไททาเนียมซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินมากเป็นอันดับสองของโลก ส่งออกนิกเกิลซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราว 7% ของอุปทานโลก ส่งออกพัลลาเดียมซึ่งเป็นส่วนประกอบในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ราว 25-30% ของอุปทานโลก และเป็นผู้ส่งออกทองแดง อลูมิเนียม ผลิตภัณฑ์ไม้รายใหญ่ของโลก
.
.
