Preview 4Q22 : BCP และ BCPG

BCP กำไรปกติเป็นไปตามคาด
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP ที่ 42.5 บาท จากการเพิ่มตัวคูณมูลค่าหลัง ROE สูงขึ้นจากการเข้าซื้อ ESSO โดย BCP ซื้อขายด้วย PBV ที่ 0.71 เท่า vs. คู่แข่งที่ 0.90 เท่า
BCP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 473 ลบ. ลดลง YoY และ QoQ ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยจากผลขาดทุนของสต๊อกน้ำมันที่สูงกว่าคาด แต่กำไรปกติเป็นไปตามคาด
แนวโน้มไตรมาส 1/66 ดีขึ้นจาก GRM และอัตราการกลั่นที่สูงต่อเนื่อง และค่าการตลาดดีเซลที่เพิ่มขึ้น ประกาศจ่ายปันผล 2H65 1.0 บาท/หุ้น หรือ DY ที่ 2.9%
มุมมอง KS
แนะ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 42.5 บาท คำแนะนำของเราอิงจากการปรับเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้นที่อาจเกิดขึ้นตามอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูงขึ้น หลังการเข้าซื้อหุ้นจำนวน 66% ใน ESSO (ประเทศไทย) ในไตรมาส 3/2566 ขณะที่หุ้น BCP ขณะนี้ซื้อขายตาม PBV และ PER ที่ 0.71 เท่า และ 6.5 เท่า ตามลำดับ เทียบกับโรงกลั่นคู่แข่งในประเทศที่ 0.90 เท่า และ 6.9 เท่า ตามลำดับ ทั้งนี้ การผนึกกำลังที่อาจเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการดังที่กล่าวข้างต้นถือเป็น upside ที่สำคัญ โดยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของเรายังอยู่ที่ 42.50 บาท อิงตาม adjusted PBV ปี 2567 ที่ 0.95 เท่า (ระดับเฉลี่ย)
BCPG ก้าวแรกสู่ตลาดไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา
กำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 2.96 พันลบ. เพิ่มขึ้น 24% YoY แต่ลดลง 54% QoQ และสูงกว่าที่เราคาด 35%
เรารวมการเข้าซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่กำลังจะมีขึ้นในประมาณการของเราด้วยมูลค่า 0.5 บาท/หุ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” และเพิ่มราคาเป้าหมาย 4% เป็น 16.4 บาท สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจะสนับสนุนแผนการขยาย MWe และการเข้าซื้อกิจการ
มุมมอง KS
แนะ “ซื้อ” แต่เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 16.4 บาท แต่ปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ขึ้น 4% หรือจาก 15.8 บาท เป็น 16.4 บาท เนื่องจากเรารวมข้อตกลงของโครงการ CCE และ SFE ไว้ในประมาณการของเรา เราเชื่อว่าหุ้นที่ระดับปัจจุบันได้สะท้อนผลกระทบของการหมดอายุของค่า adder แล้ว และการขยายกำลังการผลิตเป็น 714.1 MWe ในช่วงปี 2566-2568 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโตระยะยาวของบริษัท เนื่องจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วย D/E ratio ที่ 0.92 เท่า เทียบกับเงื่อนไขทางการเงิน (Financial covenant) ที่ 3 เท่า
