ห้องเม่าปีกเหล็ก

วิเคราะห์ธุรกิจ 4 หุ้นกลุ่มสื่อกำลังฟื้นตัว

โดย 8080
เผยแพร่ :
166 views

วิเคราะห์ธุรกิจ 4 หุ้นกลุ่มสื่อกำลังฟื้นตัว BEC ปรับผังรายการใหม่ดันกำไรสูงสุด

 

ในช่วงนี้จะเห็นได้ว่าคอนเทนท์รายการ หรือละครในช่องโทรทัศน์ต่างทยอยปรับปรุง อัปเดตผังรายการใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้การถ่ายทำทั้งในส่วนของละคร และรายการต้องสะดุดเพราะการระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่ส่งผลให้หลายรายการต้องชะลอการผลิต และส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินโฆษณาที่จะรับรู้ 


แต่อย่างไรก็ตามทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลังนักวิเคราะห์มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากผลสะท้อนตัวเลขที่ทางนีลเส็น ประเทศไทย บริษัทวิจัยและตรวจวัดข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค รายงานว่า ภาพรวมการใช้เม็ดเงินโฆษณาในช่วงเดือนมิ.ย.65 เพิ่มขึ้นกว่า 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในงวดครึ่งแรกของปี 65 เพิ่มขึ้นกว่า 8% เมื่อเทียบกับในปีก่อนด้วยเช่นกัน


โดยนายถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยให้กับ Wealthy Thai ฟังว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมหุ้นสื่อโทรทัศน์กำลังจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง จากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพราะสถานการณ์ covid-19 เริ่มคลี่คลาย รวมถึงกิจกรรมทางด้านบันเทิงๆ ต่างเริ่มกลับมาเช่นงานแสดงคอนเสิร์ตหรือการจัดงานอีเว้นท์ที่น่าจะช่วยผลักดันรายได้ให้กับอุตสาหกรรม


อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหุ้นในกลุ่มสื่ออย่าง BEC และ ONEE ผลประกอบการไตรมาส 2/65 จะออกมาต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะในช่วงครึ่งปีแรกธุรกิจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ แต่มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจจะสามารถฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าในงวดครึ่งปีแรก 


โดยในช่วงไตรมาส 2/65 BEC ปรับผังรายการใหม่ เช่น รายการเองเสาร์อาทิตย์ ขณะที่ ONEE จะเริ่มมีกิจกรรมมากขึ้น เช่นการจัดคอนเสิร์ต ส่วน MAJOR งบไตรมาส 2/65 ฟื้นตัวได้ดีจากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะฟื้นตัวเด่นในไตรมาส 3/65 เพราะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายอย่าง Thor: Love and Thunder



ส่องกำไรไตรมาส 2/65

โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BEC จะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 176 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะธุรกิจขายคอนเทนต์ฐานที่สูงปีก่อนซึ่งในไตรมาส 2/64 ที่มีรายได้จากการขายคอนเทนต์ทุบสถิติ ซึ่งมาจากรายได้การขายคอนเทนต์ปยังประเทศจีน


ขณะที่ ONEE นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่ากำไรสุทธิอยู่ที่ไตรมาส 2/65 จะอยู่ที่ 172 ล้านบาท ลดลง 35% จากปีก่อน เพราะหลักๆมาจากต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการทำการตลาดโปรโมทแอพพลิเคชั่น oneD


ด้าน MAJOR นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าผลประกอบการของ MAJOR ในไตรมาส 2/65 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิใน 115 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 218 ล้านบาท ในปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามหากไม่รวมรายการพิเศษจากค่าสินไหม ประกันภัยในกรณีเพลิงไหม้ คาดกำไรจากธุรกิจหลักในไตรมาส 2/65 จะอยู่ที่ 60 ล้านบาท โดยคาดยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์จะเพิ่มขึ้น กว่า 946 ล้านบาท หรือ เพิ่ม 522% จากปีก่อน


สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/65 ของ PLANB จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท จากในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 71 ล้านบาท เนื่องจากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งส่งผลให้ยอดโฆษณาผ่านสื่อนอกบ้านเติบโตขึ้น รวมถึงรายได้จาก sport marketing ที่เพิ่มขึ้น และการกลับมาจัดงานของ BNK48 อีกครั้ง



แนวโน้มธุรกิจในอนาคต

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในงวดครึ่งปีหลังของ BEC รายได้จะกลับมาฟื้นตัวจาก 1) รายได้ค่าโฆษณาที่ฟื้นตามอุตสาหกรรมโฆษณาซึ่งการเปิดประเทศจะทำให้สามารถจัดกิจกรรมการตลาด อีเว้นท์ ต่างฯได้มากขึ้น 2) จะเริ่มเห็นผลบวกจากการปรับผังรายการใหม่ 3) แผนขายคอนเทนต์ไปยังตลาดต่างประเทศ และมีการขายลิขสิทธิ์ไปยังแพตฟอร์ม อื่น เช่น NETFLIX มากขึ้น 4 ปลายปีคาดมีภาพยนตร์ที่ร่วมสร้างกับ MA JOR เข้าฉาย 1 เรื่อง


ส่วน ONEE ในครึ่งปีหลังคาดผลประกอบการกลับสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตสูงด้านการผลิตคอนเทนต์และการเข้าถึงของผู้ชมผ่านช่องทางออนไลน์ เราคาดรายได้จะกลับมาเติบโต โดยล่าสุดเพิ่งปิดดีล Co-Production กับผู้ผลิต Content ในเอเชียรายใหญ่ได้ ภาพรวมในปี 65 คาดว่ากำไรจะโต 11% จากปีก่อน เป็น 928 ล้านบาท ตามอุตสาหกรรมโฆษณาที่คาดจะฟื้น


ขณะที่ MAJOR ผลการดำเนินงานจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในฝนงวดครึ่งปีหลังเนื่องจากมีโปรแกรมหนังเด็ดรอเข้าฉายอยู่  ขณะที่ยอดขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวจะเพิ่มขึ้นตามโปรแกรมหนังเด็ดที่รอเข้าโรง อีกทั้งรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 3/65 คาดว่ากำไร จากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 


ด้าน PLANB  ยอดโฆษณาผ่านสื่อนอกบ้านฟื้นตัวขึ้น แต่ยังมีหลายปัจจัยที่กดดันอยู่ ซึ่งยังคงมองว่ายอดโฆษณาของธุรกิจสื่อจะฟื้นตัวขึ้นในปี 65 จากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ และกิจกรรมนอกบ้าน โดยคาดว่ายอดโฆษณาผ่านสื่อ นอกบ้าน ในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

 


8080