เปิดลิสต์ 10 หุ้น ต่างชาติ “ซื้อ” มากที่สุดตั้งแต่ต้นปี
พบเก็บ CPALL ไปแล้ว 5.6 พันล้าน

.
เงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ หรือ ฟันด์โฟลว์ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสำคัญและจับตามองอย่างมาก เพราะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย แม้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (01 ม.ค. - 8 พ.ค. 2566) นักลงทุนต่างชาติจะมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยรวมกว่า 61,066.35 ล้านบาท แต่ยังมีหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติชื่นชอบและปรับน้ำหนักการลงทุนต่อเนื่อง
.
ประกอบกับวันจันทร์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 4,104.19 ล้านบาท ช่วยหนุนดัชนีให้ปรับขึ้นแรง ดังนั้น Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาสำรวจว่า 10 หุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีมีหุ้นอะไรบ้าง
.
โดยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมากที่สุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (1 ม.ค. - 8 พ.ค. 2566) คือ CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวมกว่า 5,615.5 ล้านบาท
.
รองลงมาเป็น MAKRO หรือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 3,409.5 ล้านบาท, BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 2,982.1 ล้านบาท, BBL หรือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 2,909.1 ล้านบาท
.
SCC หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 2,333.0 ล้านบาท, MINT หรือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 2,305.3 ล้านบาท, TRUEE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 1,626.3 ล้านบาท
.
JMART หรือ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 1,314.1 ล้านบาท, HANA หรือ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 1,199.3 ล้านบาท และสุดท้าย DELTA หรือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมรวม 1,134.2
.
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อเป็นหุ้นขนาดใหญ่และมีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมที่ทำธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้มีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้าซื้อสุทธิต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า มีโอกาสที่ฟันด์โฟลว์จะไหลเข้าหุ้นไทยต่อในช่วง Election Rally ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำสะสมหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่ และมีสภาพคล่องสูง
.
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กลยุทธ์ลงทุนเกาะกระแสตามนักลงทุนต่างชาติ แนะนำให้ดูหุ้น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธนาคาร SCB,KBANK, BBL และโรงพยาบาล BH, BDMS, BCH