ห้องเม่าปีกเหล็ก

อย่าเสียเวลาเพิ่มศักยภาพทีมงาน แบบผิดๆ

โดย คริสตัล
เผยแพร่ :
114 views

อย่าเสียเวลาเพิ่มศักยภาพทีมงาน แบบผิดๆที่เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ไร้ผล สำหรับปี2023 !

 

 

ถ้าจะทำอะไรทั้งที ทำมันอย่างจริงจัง และทำในสิ่งควรทำ แล้วท่านจะเห็นความแตกต่างในเรื่องศักยภาพของทีมงานที่เปลี่ยนไป เพื่อให้องค์กรของท่าน มีทีมงานที่มีศักยภาพที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างรายได้ให้กับหน่วยงานและองค์กรอย่างแท้จริง

Part.1.ไม่มีองค์กรใด ไม่ต้องการเพิ่มศักยภาพให้กับทีมงานของตนเอง
            แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง หลายๆองค์กร กลับไม่มีเวลา สร้างและพัฒนาคน หรือมีเวลา แต่พัฒนาแบบผิดๆจนไม่เห็นผล!
            วิธีการเพิ่มศักยภาพก็มีหลากหลายวิธีแล้วแต่ความถนัดและความเคยชินของแต่ละที่ ที่แตกต่างกัน  แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงเท่าที่เคยได้ยิน เคยพบ ยังมีความเข้าใจผิดๆในเรื่องการเพิ่มศักยภาพของทีมงานในทุกธุรกิจ ที่เป็นวิธีการที่เสียทั้งเวลา เสียค่าใช้จ่ายแต่กลับได้ผลที่ไม่คุ้มค่า หรือส่วนมากไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!
            เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะไปดูกันว่าวิธีการใดที่ดีและมีประสิทธิภาพ มาลองตรวจสอบวิธีการที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพและไม่ได้ผลกันก่อนดีกว่า ท่านจะได้ตรวจสอบไปด้วยว่า วิธีการที่ไม่ค่อยได้ผลนี้ยังเป็นวิธีการที่ท่านหรือองค์กรของท่าน กำลังทำอยู่หรือไม่!

Part.2.วิธีการพัฒนาแบบผิดๆ ที่เสียทั้งเงินและเวลา!
            วิธีการผิดๆแบบที่ 1.  เน้นปริมาณของเนื้อหาและหลักสูตรมากกว่าเน้นคุณภาพที่ตรงความต้องการ
            หลายๆธุรกิจจะมีแผนงานฝึกอบรมให้กับแต่ละหน่วยงาน หรือจำนวนชั่วโมงที่พนักงานจะต้องเข้ารับการฝึกอบรม ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่พลาดตรงที่ ฝึกอบรมมากเกินไป เรียกว่ามากเกินความจำเป็น
            เรียนแล้วเรียนเล่าแต่ไม่สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ เพราะเรียนมากเกินไปจนสับสน! สิ่งที่ได้ก็คือ ได้เรียนรู้ แต่สิ่งที่เสียคือ เวลา เงินรวมทั้งความเบื่อหน่ายของพนักงานที่เรียนมากจนไม่เห็นคุณค่า และไม่นำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์!
วิธีการผิดๆแบบที่ 2. เน้นปริมาณของผู้เข้าอบรมในแต่ละครั้งมากกว่าเน้นคุณภาพของผู้เข้าอบรม!
            ตรงนี้เป็นวิธีการแบบผิดๆที่นิยมกันอย่างมากเพราะความคิดผิดๆที่ว่าอบรมแต่ละครั้งต้องยัดทะนานพนักงานเข้าไปให้มากที่สุดอาจจะครั้งละ 60 คน80 คน 100 คนต่อการฝึกอบรมในแต่ละวัน

   เรียกว่าถ้าสามารถเรียกคนในหมู่บ้านข้างเคียงมาเข้าอบรมได้ก็จะพยายามยัดเข้าไปให้ได้มากที่สุดหรือสามาถขี่คอกันนั่งเรียนได้ก็จะยิ่งดี! เพราะมีความรู้สึกว่าคุ้มเพราะจำนวนคนเยอะเฉลี่ยต่อคนแล้วคุ้มค่า  บอกได้เลยครับว่ายิ่งเยอะยิ่งไม่คุ้มยิ่งน้อยกลับยิ่งคุ้มค่าและได้ผลมากกว่า
วิธีการผิดๆแบบที่ 3. จะมีการพัฒนาบุคลากรหรือฝึกอบรมก็ต่อเมื่อมีปัญหาหนักหนาสาหัสแล้ว!
            ตรงนี้ก็เป็นวิธีการยอดฮิตอีกเช่นกันที่หลายธุรกิจมักจะหายาแก้ปวดเวลาที่อาการต้องเข้าห้องไอ ซี ยุ แล้ว!
ถามว่าผิดหรือไม่จะว่าไปก็ไม่ผิดเพราะมีปัญหาก็ต้องแก้ เพียงแต่แก้ช้าเกินไปก็เลยมักจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก  องค์กรหรือธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เมื่อเริ่มสังเกตุเห็นอาการของปัญหาก็จะรีบลงมือแก้ไข หรือต่อให้ไม่มีปัญหา ก็ยังมีความพยายาม ความใส่ใจที่จะพัฒนาศักยภาพของบุคคลากร โดยไม่ต้องรอให้ปัญหาเกิดขี้นแบบหนักหนาสาหัสแล้วตาลีตาเหลือกแก้ไขแบบร้อนรน!
วิธีการผิดๆแบบที่4.พัฒนาศักยภาพหรือฝึกอบรมตามกระแสตามแฟชั่น!
            ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่า ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ใช่หรือที่ชาวบ้านเขากำลังฮิตกำลังเห่อเรื่องอะไรเราก็ควรทำเพื่อจะได้ไม่ตกกระแส  จริงๆแล้วก็ไม่ผิดอะไรมากมายหรอกครับ แต่ควรดูว่าเรื่องที่ฮิตเรื่องที่เห่อกันมันเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์เหมาะสมกับองค์กรเราหรือไม่? แล้วทำไมต้องเห่อตาม?น่าคิดนะครับ?
วิธีการผิดๆแบบที่ 5. พัฒนาโดยไม่รู้ปัญหา ความต้องการที่แท้จริง!
            เรียกว่า ถึงเวลาพัฒนาถึงเวลาฝึกอบรมก็ทำไปแต่อาจไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง ว่ารากเหง้าของปัญหาเกิดจากอะไร?
ถ้ายังไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง สิ่งที่พยายามพัฒนาไปจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามาถูกทาง?
            จากตัวอย่างวิธีการที่ผิดๆที่ยกมาให้ดูเป็นน้ำจิ้ม4 รูปแบบ… ลองตรวจดูนะครับว่ารูปแบบใดตรงกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่  แล้วถ้าจะปรับเปลี่ยนวิธีการ จะทำอย่างไร ? รบกวนติดตามตอนต่อไปนะครับ!
Part.3.แล้วควรใช้แนวทางการพัฒนาแบบใด?
            ลองมาดู แนวทางเพิ่มศักยภาพเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างรายได้ให้กับทีมงานของท่านที่น่าจะดีกว่า 4 รูปแบบผิดๆที่ผ่านมา  โดยใช้ 4 ขั้นตอนที่ถูกต้องดังนี้ครับ……
  ขั้นตอนที่ 1. กำหนดศักยภาพที่ท่านต้องการให้ทีมงานของท่านมี 
  ขั้นตอนที่ 2. ค้นหาศักยภาพที่ทีมงานของท่านมีในปัจจุบัน
  ขั้นตอนที่  3.  กระบวนการฝึกสอน หล่อหลอม ที่เหมาะสมกับทีมงาน/หน่วยงาน
  ขั้นตอนที่ 4 . ติดตามและประเมินผลขั้นต้น ก่อนการขยายผล
            ข้อดีของการใช้สองขั้นตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นก็คือ ท่านจะไม่ต้องสะเปะสะปะในการเพิ่มศักยภาพโดยการหลับหูหลับตาฝีกอบรมแบบพร่ำเพรื่อ  ถึงแม้การฝึกอบรมจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่การฝึกอบรมก็ไม่ใช้เป็นยาครอบจักรวาลที่จะแก้ปัญหาได้  เพราะการที่จะสร้างหรือหล่อหลอมศักยภาพใหม่ๆให้เกิดกับทีมงานของท่านจำเป็นต้องใช้ขั้นตอนที่สามทันที
            เช่น ฝึกอบรม (หลังจากระบุศักยภาพที่ต้องการให้มีแล้ว)  สิ่งที่สำคัญก็คือการ ติดตามผลด้วยการCOACHING  (หมายถึงการฝึกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในหลากหลายรูปแบบหลากหลายวิธีการเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง) ซึ่งจะสามารถวัดผลได้ชัดเจนกว่า การฝึกอบรมแล้วก็เลิกแล้วกันไป
            หรือแม้กระทั่งการสร้างทีมต้นแบบให้แข็งแกร่งทดลองปฏิบัติโครงการนำร่อง เมื่อเห็นผลแล้วค่อย ขยายผล (ROLL OUT) แนวทางนี้ไปสู่ทีมงานที่เหลือ หรือทีมงานอื่นๆ ก็เป็นวิธีการที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ว่าเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างศักยภาพที่ได้ผลมากกว่าการฝีกอบรมเพียงอย่างเดียวหลายเท่า ถึงแม้จะใช้เวลามากกว่า แต่ก็ดีกว่าใช้เวลาน้อยแล้วล้มเหลวไม่ใช่หรือครับ?

Part.4. ลองเลือกดูว่าจะเลือกแนวทางการพัฒนาแบบ   4 แรก หรือ   4 หลัง!
            4 รูปแบบผิดๆ กับ  4 ขั้นตอนที่ถูกต้อง ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะใช้  4 แบบใด? ถ้าเลือกใช้4 รูปแบบผิดๆ
ครบทุกรูปแบบเลย ผลที่ออกมาก็จะไร้ผล

            ถึงแม้ 4 ขั้นตอนที่ถูกต้องจะต้องใช้ทั้งเวลาและลงรายละเอียดเมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากหรือซับซ้อนอะไรมากมาย  เพียงแต่ต้องอาศัย ความทุ่มเทความมุ่งมั่นอย่างจริงจังของผู้บริหารแต่ละองค์กรว่าจะเอาจริงเอาจังหรือไม่?
            ถ้ารักสบายไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ใช้วิธีที่เคยใช้ให้มันจบๆไป ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามักจะเห็นผลอะไรเป็นรูปธรรม แต่ก็ยังฝืนทำต่อ จะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเหล่าประโยชน์
            สรุป ถ้าจะทำอะไรทั้งที ทำมันอย่างจริงจัง และทำในสิ่งควรทำ แล้วท่านจะเห็นความแตกต่างในเรื่องศักยภาพของทีมงานที่เปลี่ยนไป เพื่อให้องค์กรของท่าน มีทีมงานที่มีศักยภาพที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างรายได้ให้กับหน่วยงานและองค์กรอย่างแท้จริง เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ได้อย่างเห็นผลตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้าครับ!

 

 


คริสตัล