
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 คือวันที่โลกคริปโท สะดุดเข้ากับหลุมลึกที่เรียกว่าในตอนนี้คือหลุมที่ลึกสุดในประวัติศาสตร์ และทุกอย่างไม่ได้หยุดเพียงเพราะใครกดปุ่ม แต่เพราะพื้นฐานแห่งความเชื่อมั่นทั้งวงการ “ทรุดตัวลง” พร้อมกันอย่างไม่ทันตั้งตัว
.
ราคาทรุด ข่าวลือแพร่สะพัด นักลงทุนเริ่มเทขาย พยายามแย่งกันถอนเงินออกจากกระดานเทรดให้ได้ก่อนที่ประตูจะปิด และในพริบตาเดียว ชื่อของแพลตฟอร์มที่เคยถูกยกให้ “ปลอดภัยที่สุด” อย่าง FTX ก็กลายเป็นศูนย์กลางของวิกฤตที่สั่นสะเทือนทั้งวงการสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก
.
บนหน้าฟีดวันนั้น เต็มไปด้วยโพสต์คำถามสั้น ๆ ที่ขนาดคนที่ไม่ได้มีเงินอยู่ในกระดานเทรดนั้น อ่านแล้วยังรู้สึกหดหู่ “เงินอยู่ไหน?” “ถอนยังไม่เข้าเลย” “FTX พังจริงเหรอ?”
.
และไม่กี่ชั่วโมงถัดมา คำตอบก็ปรากฏชัด FTX ได้ยื่นล้มละลายภายใต้ Chapter 11 ปิดฉากอาณาจักรของ Sam Bankman-Fried หรือที่คนในวงการรู้จักกันในชื่อ “SBF”
.
หากใครเพิ่งเข้ามาในตลาดคริปโทช่วงตลาดกระทิงรอบนี้ อาจจะ “ไม่ทันเห็นความมืดและความสิ้นหวังที่เกิดขึ้นกับหมู่นักลงทุนคริปโทในช่วงนั้น” วันที่ความเชื่อมั่นของทั้งวงการหายไปในเวลาเพียงไม่กี่วัน
.
วันที่เหรียญทุกตัวพากันดิ่งลงอย่างหนักจนบางเหรียญเหมือนจะไร้ค่าไปเลย และชื่อเสียงของบริษัทระดับโลกก็กลายเป็นเพียงฝุ่นในพริบตาเดียว ช่วงเวลานั้นทำให้คริปโทไม่ใช่คำว่า “freedom” หรือ “innovation” อีกต่อไป แต่กลายเป็น “fear” และ “silence” ที่แทบไม่มีใครอยากพูดถึง
.
สามปีผ่านไปหลังการล่มสลายของ FTX แพลตฟอร์มคริปโทที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกให้เป็น “แสงสว่าง” ของอุตสาหกรรม ความทรงจำในช่วงเวลานั้นยังคงติดตรึงในใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นนักเทรด นักลงทุน หรือผู้ที่เฝ้ามองวงการนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX ไม่ได้เพียงทำลายไปแค่บริษัทหนึ่ง แต่มันได้สั่นคลอน “ความเชื่อมั่น” ทั้งระบบของโลกคริปโทในชั่วข้ามคืน
.
.
อ่านต่อ… https://www.efinancethai.com