ห้องเม่าปีกเหล็ก

อะไรคือความจริงในการนำหลักการต่างๆ มาใช้ในการเทรดและการลงทุน

โดย สาระพันเทรดดิ้ง
เผยแพร่ :
65 views

เพื่อนๆเคยเป็นแบบผมมั้ยครับ? คือ เราอ่านหนังสือมาหลายเล่ม เนื้อหามาหลายเนื้อหา แต่เราก็จะไปเจอว่าบางครั้งใช้ได้ผล บางครั้งใช้ไม่ได้ผล และเราก็จะเดินทางออกไปค้นหาเทคนิคใหม่ๆเพิ่ม
 
 
ผมเคยมีประสบการณ์ในสิ่งนั้นอยู่หลายปีเลยครับ แต่ผมเป็นมนุษย์ขี้สงสัยและช่างถาม และก็หนักๆไปถึงขั้นนักทดสอบทดลองหาผลลัพธ์
 
 
จนวันนหนึ่งผมได้ไปยินเรื่องราวของคำสอนพระพุทธเจ้าครับ...มีอยู่หนึ่งท่อนที่ผมสะดุดและเอะใจเอามากๆ คือ คำสอนของท่านไม่มีผิด ตรงจริง และเป็นบุคคลเดียวที่ทำได้ รู้แจ้ง
 
 
ผมเลยคิดว่าจะใช่จริงหรือไม่ แต่ถ้าใช่จะดีมากๆเลยเพราะมีคนสอนเราในเรื่องที่จริงและไม่มีผิด ผมเองก็เชื่อมาหลายอย่างแล้วลองมาหลายอย่างแล้วแต่ยังไม่ถึงเป้าหมายในสิ่งที่ต้องการครับ ผมเลยคิดว่าน่าลองดูสักครั้งในชีวิตนะ ผมเลยไปนั่งฟังสะสมสุตะครับ สุตะหรือพระสูตรคือคำสอนที่เขียนออกมาเป็นบทๆคล้ายเรื่องเล่าและอธิบายเหตุปัจจัยของการเกิดสิ่งต่างๆ ทั้งฟัง ทั้งอ่าน และก็ลองเอาข้อธรรมนั้นๆมาใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อทำความเข้าใจดู และก็เอามาใช้ในการเทรด การลงทุนด้วยครับ
 
 
แต่พอถึงตรงจุดนี้ผมเองก็ต้องขอบอกตามตรงนะครับ ว่ามันคือการตีความในมุมของผมเองล้วนๆนะครับ ไม่เกี่ยวกับคำสอน เพราะหลักการที่ผมใช้ จะแยกคำสอนไว้ส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ไม่สามารถขัดแย้งกันเองได้ และอีกส่วนคือส่วนที่ผมตีความจากการนำไปปฏิบัติครับ
 
 
มาลองเริ่มกันสักตัวอย่างนะครับ
เช่น 

ความพอใจ เป็นเหตุแห่งทุกข์ 
“ทุกข์ใดๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ทุกข์ทั้งหมดนั้น 
มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ
เพราะว่า ฉันทะ (ความพอใจ) เป็นมูลเหตุแห่งทุกข์
ทุกข์ใดๆ อันจะเกิดขึ้นในอนาคต ทุกข์ทั้งหมดนั้น 
ก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ
เพราะว่า ฉันทะ (ความพอใจ) เป็นมูลเหตุแห่งทุกข์
และทุกข์ใดๆ ที่เกิดขึ้น ทุกข์ทั้งหมดนั้น 
ก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ
เพราะว่า ฉันทะ (ความพอใจ) เป็นมูลเหตุแห่งทุกข์”.
 
 
ผมก็เอาพระสูตรนี้มาตีความ...ตามที่ผมเข้าใจแล้วสร้างมันมาให้เป็นแผนกลยุทธ์การเทรดครับ...นั้นคือ ผมรู้แล้วว่าทุกข์ของผมจะเกิดถ้าผมไปพอใจ ดังนั้นผมเลยออกแบบให้เงินทุนที่ผมนำเข้าไปเทรด หรือลงทุนนั้น เป็นเงินที่ผมไม่มีความรู้สึกพอใจกับเงินจำนวนนั้นแทนครับ...ซึ่งตรงนี้ผมเข้าใจว่าระดับของแต่ละคนจะไม่เท่ากันครับ...แต่ผมอยากให้โฟกัสไปที่แนวคิดก่อนว่า เราจะตัดความพอใจในเงินที่นำมาเทรดหรือลงทุนออกไปก่อน ความรู้สึกเพื่อนๆถามใจตัวเองได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็อาจคิดเป็น % ครับ เช่น ถ้ามีเงินทั้งเนื้อทั้งตัว 100% ถามตัวเองว่ากี่ % หมดแล้วชีวิตไม่พัง ไม่ได้รับผลกระทบ ก็สามารถใช้ตาม % ในสิ่งที่เพื่อนๆคิดได้เลยครับ แต่ส่วนตัวผมจะใช้ความรู้สึกวัดแทนครับ เพราะมันจริงมากๆ มันบอกได้ว่าระดับไหนเรารู้สึกกับไม่รู้สึก ผมจะเอาเงินมาวางไว้ตรงหน้านั่งดูอารมณ์ตัวเองเลยครับทำแบบนี้ก่อนในระยะแรก
 
 
เพียงแค่นี้...ผมก็จะทำให้ระดับความพอใจที่เกิดทุกข์ของผมนั้นจางคลายไปครับ...อันนี้เป็นหนึ่งตัวอย่างในการนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปรับใช้กับโลกการเทรดของผมนะครับ...ไว้ผมจะเอาเทคนิคอื่นๆ หรือมุมมองการตีความอื่นๆในแบบฉบับของผมที่เกิดจากประสบการณ์จริงมาขยาย และเล่าให้ฟังในมุมอื่นๆเพิ่มให้นะครับ วันนี้เอาพื้นฐานส่วนของ การบริหารจัดการเงินทุน หรือMoney Management พร้อมกับการจัดการสภาวะจิตใจหรือในส่วนจิตวิทยาการลงทุนไปใช้กันดูก่อนนะครับ
 
 
ปรับพอร์ตการเทรดการลงทุนให้ไร้ความพอใจ ก็จะไม่ทุกข์เพราะเราไปดับที่เหตุ เหตุดับผลดับ

 
ตารางงานเขียนครับ จันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 12:30-12:55 น.ครับ อ่านเพลินๆระหว่างพักทานข้าว ทานชากาแฟได้เลยคร๊าฟฟฟ
เนื้อหาเน้นง่าย เป็นสิ่งที่เกิดจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงแบบมุมมองส่วนตัวของผมเอง...นำมานำเสนอเพื่อให้เพื่อนนำไปปรับตามสไตล์ตนเอง เพื่อให้เข้าใจทั้งแนวคิด แนวปฏิบัติ และอยู่ร่วมกันได้ทุกสาย เพราะพวกเรา คือ "เพื่อนมนุษย์ในโลกใบเดียวกัน รักกันคร๊าฟฟฟฟ"


สาระพันเทรดดิ้ง