โดย ศักดิ์
เผยแพร่ : 
62 viewsปัญหาของเม่าคือ " วิเคราะห์มาก ", " รู้มาก ", " รู้ดี " และ " รู้ไปเสียทุกเรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ " แต่เวลาลงทุนแล้ว " เจ๊งทุกทีเลย "
ส่วนตัวผู้โพสต์เอง และกลุ่มผู้ติดตามถือว่า " วิเคราะห์น้อย ", " รู้น้อย ", " รู้เฉพาะเจาะจงไปยังเรื่องที่มีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นเท่านั้น " และ " รู้เฉพาะเรื่องที่จะทํากําไรเท่านั้น " โดย " อย่างอื่นไม่สนใจเลย! "
และในที่สุด ก็ทําให้ผู้โพสต์และกลุ่มผู้ติดตาม " ได้กําไรทุกทีเลย " เพราะลงทุนมาตั้งแต่ปีที่แล้วคือปี พ.ศ 2561 ได้กําไรดังนี้ คือ :
กําไรจนถึง ณ. วันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
1) ปี พ.ศ 2561 = +19.30%
2) ปี พ.ศ 2562 = +258.26%
3) กําไรสะสมรวม = +277.56%
จากกําไรคาดหวังเพียงแค่ 11.3% ต่อปี เท่านั้นเอง
สําหรับกลยุทธของผู้โพสต์นั้น เป็นดังนี้คือ :
1) Long และ Short Set 50 Derivatives โดย :
1.1) Long Set 50 Derivative เมื่อตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น โดยมีสาเหตุมาจาก :
1.1.1) เศรษฐกิจโลกเติบโตได้ดี
1.1.2) ดอกเบี้ยเฟดมีแนวโน้มจะเป็นขาขึ้นในระยะยาว ( ปี พ.ศ 2551 มาจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 โดยเป็นขาขึ้นจาก 0.25% เป็น 2.50% )
1.1.3) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย
1.2) Short Set 50 Derivative เมื่อตลาดหุ้นเป็นขาลง โดยมีสาเหตุมาจาก :
1.2.1) ฟองสบู่โลกแตก
1.2.2) สงครามการค้า และสงครามการเงินระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน
1.2.3) ดอกเบี้ยเฟดมีแนวโน้มจะเป็นขาลงในระยะยาว ( ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 ไปจนถึงวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป โดยลดจาก 2.50% เป็น 2.25% เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยเฟดครั้งแรกในรอบ 11 ปี )
1.2.3) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย
2) ถือเงินสด โดยไม่จําเป็นต้องทําอะไรเมื่อทิศทางของตลาดหุ้นไม่ชัดเจน
หมายเหตุ : โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
