ส่อง 8 ธนาคารใหญ่ของไทย
สินเชื่อของใครเติบโตมากที่สุด !!

.
การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบน่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศให้ฟื้นตัว สะท้อนได้จากความต้องการสินเชื่อเพื่อขยายธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดเดือนส.ค. 2565 ตัวเลขสินเชื่อของ 8 หุ้นธนาคารในตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาอยู่ที่ 11.1 ล้านล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับต้นปี 2565 และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. 2564
.
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวมสินเชื่อเดือน ส.ค. 2565 ของ 8 หุ้นธนาคาร ได้แก่ BBL, KBANK, KKP, KTB, LHFG, SCB, TISCO และ TTB อยู่ที่ 11.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับต้นปี 2565 ตามการขยายตัวของสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อรายย่อย
.
โดยธนาคารที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่สุดจากเดือนก.ค. 2565 คือ BBL เพิ่มขึ้น 4.1% จากสินเชื่อรายใหญ่ที่เติบโตได้ดีทั้งจากที่ไทยและต่างประเทศ รองลงมาเป็น KKP เพิ่มขึ้น 3.6% และ TISCO เพิ่มขึ้น 3.5% จากสินเชื่อรายใหญ่, สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อบ้าน ขณะที่ธนาคารที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากสุดจากต้นปี 2565 คือ KKP เพิ่มขึ้น 14.8% รองลงมาเป็น LHFG เพิ่มขึ้น 9.8% และ BBL เพิ่มขึ้น 7.1%
.
ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร โดยสินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าได้ตามคาดจากการเติบโตของสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อรายย่อยอย่างเช่าซื้อและบ้าน ขณะเดียวกันฝ่ายวิจัยคาดว่าภาพรวมของสินเชื่อในเดือนก.ย. 2565 จะเห็นการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะสินเชื่อรายใหญ่อยู่ในช่วงเร่งตัวขึ้น และภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ โดยการเติบโตของสินเชื่อยังคงดีตามคาด ซึ่งทำให้ภาพรวมสินเชื่อรวมทั้งปี 2565 ของกลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% (เทียบกับสินเชื่อรวมของกลุ่มในช่วง 8 เดือนปี 2565 อยู่ที่ 3.0% จากต้นปี) ยังคงทำได้ตามคาด อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังให้ความสำคัญกับประเด็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เชื่อว่า NPL จะทยอยเพิ่มขึ้น แต่ไม่น่ากังวลมากนัก เพราะธปท. มีการต่อมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ไปถึง 31 ธ.ค. 2566
.
สำหรับคำแนะนำการลงทุน ฝ่ายวิจัยยังคงน้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคาร “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูก เทรดที่ระดับเพียง 0.70x PBV ด้าน NPL แม้ว่าจะยังอยู่ในขาขึ้น แต่เป็นการทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะยังมีมาตรการช่วยเหลือต่อถึงสิ้นปี 2566 โดยฝ่ายวิจัยชอบกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่มากกว่าธนาคารขนาดเล็กเนื่องจากได้ประโยชน์จากแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น คาดจะเห็นธนาคารเริ่มทยอยปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นไปก่อนแล้ว โดยเลือก KBANK, KTB เป็น Top pick ขณะที่ BBL ได้ sentiment เชิงบวกจากสินเชื่อที่โตเด่นในเดือน ส.ค. 2565