KTB Performance Q1/2018
กำไรสุทธิ
มีกำไรสุทธิ Q1/2018 ที่ 6,800 ล้านบาท ลดลง 20.5% YOY แต่ เพิ่มขึ้น 40.8% QOQ แต่ยังคงมีความกังวลบางส่วนเกี่ยวกับรายได้ทั้งในส่วนของที่เป็นดอกเบี้ยและที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
Loan growth
Loan growth ที่ลดลงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม สินเชื่อจากธุริจขนาดใหญ่มีแนวโน้มลดลง ตรงข้ามกับสินเชื่อรัฐบาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้นแต่มีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ทำให้ interest rate margin ลดต่ำลง จาก 3.2%ในปี 2017เหลือ3.0%ใน Q1/2018
อัตราส่วน NPL
NPLยังคงเพิ่มสูงขึ้นจาก 5.3%เป็น 5.6%ใน Q1/2018ส่วนใหญ่มาจากลูกค้ากลุ่ม SMEs และ รายย่อย สวนทางกับธนาคารใหญ่ๆ นอกจากนี้ยังได้ตัดจำหน่าย NPL ไป 3,200 ล้านบาท
Non Interest Margin
Non Interest Margin ทรงตัว โดยปัจจัยสำคัญจากการที่รายได้จากส่วนของปริวรรตเงินตราลดลงอย่างมาก (การเทรดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน) และกำไรของบริษัทประกันในเครือที่ลดลง
คุณภาพสินทรัพย์
คุณภาพสินทรัพย์ยังไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากนัก โดย coverage ratio (อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม) ปัจจุบันอยู่ที่1.2 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ที่ 1.5เท่า โดย KTB มีแนวโน้มที่จะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมซึ่งจะกดดันกำไรในไตรมาสถัดๆไป
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่จะเพิ่มขึ้นจากแผนการลงทุน ระบบ IT ที่ดีขึ้นและ ปรับกลยุทธ์ที่จะใช้รักษาฐานลูกค้ารายย่อยจากบริษัท Retail finance ที่เกิดขึ้นใหม่ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด
ในภาพรวมความเสี่ยงส่วนใหญ่ของ KTB ยังคงมาจาก NPL ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องตั้งสำรองเพิ่ม ส่งผลให้กำไรโดยรวมลดลง รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังน่ากังวล อย่างไรก็ตาม KTB เป็นธนาคารที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากนโยบายฟรีค่าธรรมเนียมธุรกรรมดิจิตัลเมื่อเทียบกับธนาคารรายใหญ่
- Yoo -
อ้างอิง : portal.settrade,com