GGC - คงต้องเริ่มต้นใหม่ แต่ภาพลักษณ์บริษัทที่เสียไป ยากที่จะเรียกคืน
10 ส.ค. 2561 / 3.56 น.
เขียนโดย Wattana Stock Page
งบ GGC ประกาศออกมาแล้ว มีการบันทึกรายจ่ายจากกรณีวัตถุดิบหายไปจากสต็อก จำนวน 2 พันล้านบาท และส่งผลกระทบมายัง PTTGC เป็นจำนวน 1388 ล้านบาท (ตามสัดส่วนการถือหุ้น)
อ่านคำชี้แจงของบริษัทแล้ว ก็เข้าใจที่มาที่ไปว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะก่อนหน้านี้บางส่วนก็เข้าใจกันว่า เป็นการขโมยเอาวัตถุดิบออกไปขาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันค่อนข้างจะเกิดขึ้นยากมากกับการขโมยปริมาณมากขนาดนี้
บริษัทชี้แจงว่า GGC ใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าคือ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ซึ่งวัตถุดิบที่รับมานั้นก็มีทั้งส่วนที่เป็นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ และก็มีบางส่วนที่ไม่ใช่ เช่น น้ำมันปาล์มดิบ เมล็ดในปาล์ม น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เป็นต้น
ซึ่งวัตถุดิบที่ไม่ได้อยู่ในรูปของน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์นั้น จะต้องไปผ่านกระบวนการสกัด หรือไม่ก็กลั่น อีกขั้นตอนหนึ่งก่อน เพื่อให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์และนำมาใช้ในกระบวนการผลิตต่อไป
ซึ่งขั้นตอนการสกัด หรือการกลั่นนี้ GGC ไม่ได้ทำเอง แต่จะจ้างคู่ค้าที่เป็นโรงสกัดหรือโรงกลั่นทำให้ แล้วค่อยส่งกลับมาให้ GGC ในรูปของน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์
ทีนี้ สต็อกวัตถุดิบนั้น ไม่ได้เก็บไว้ที่ GGC เท่านั้น แต่มีการเก็บไว้ที่ภายนอกด้วย อาจเพราะเพื่อความสะดวกในการส่งวัตถุดิบไปสกัดหรือไปกลั่นยังคู่ค้านั่นเอง
ปัญหาที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นตรงนี้แหละ
คือ ปกติแล้ว GGC จะจ่ายค่าวัตถุดิบออกไป แล้วก็เอามาเก็บไว้ในคลัง เอกสารที่ส่งเข้ามายังส่วนกลางน่ะมี แต่วัตถุดิบมัน "ไม่มีจริง" พูดง่ายๆก็คือ GGC จ่ายเงินซื้อ "สต็อกลม" เข้ามาเก็บในสต็อก (อาจไม่ใช่สต็อกลมทั้งหมด แต่จำนวนที่รายงานไปยังส่วนกลาง กับจำนวนที่รับเข้าจริงนั้นไม่เท่ากัน)
หลังจากนั้น พอถึงขั้นตอนเอาวัตถุดิบเหล่านี้ส่งให้คู่ค้าเพื่อกลั่นให้เป็นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ คู่ค่าก็ไม่ส่งเป็นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์มาให้ แถมพอเรียกวัตถุดิบคืน ก็ยังไม่ยอมคืนอีกด้วย
ก็แน่ล่ะ ก็ของมันไม่มีเข้าไปกลั่น จะให้มีน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ออกมาได้ยังไง
ซึ่ง GGC ตรวจสอบพบว่า มีการร่วมมือกันทุจริตของพนักงานภายใน และคู่ค้าบางราย ในขั้นตอนดังกล่าว และยังมีเอกสารการโอนสิทธิการรับเงินค่าวัตถุดิบที่คู่ค่าจะต้องรับไปยังบุคคลอื่น ซึ่งเอกสารเหล่านี้บริษัทบอกว่า ไม่ได้อยู่ในระบบส่วนกลางของบริษัท หรือพูดภาษาชาวบ้านก็คือ มีการออกเอกสารปลอมนั่นล่ะ
โดยฝ่ายกฎหมายของบริษัทได้แจ้งว่า GGC สามารถเรียกร้องให้คู่ค้าส่งคืนวัตถุดิบ หรือเรียกร้องเงินคืนจากคู่ค้าได้
แต่ว่ากันตามตรงเลย นี่มันคือ "การทุจริตเป็นขบวนการ" โดยพนักงานของ GGC และคู่ค้า จะเรียกร้องให้ส่งวัตถุดิบคืน จะคืนยังไง? เพราะวัตถุดิบมันไม่มีหรือมีไม่ครบตั้งแต่ต้น
และถ้าจะเรียกร้องเงินคืน ป่านนี้ปิดโรงงานหนีไปหรือยังก็ไม่รู้ แต่เงินนั้นได้ถูกจ่ายออกไปแล้ว แถมยังเป็นการปลอมเอกสารอีกด้วย
ดังนั้น คนที่คาดหวังว่า GGC จะได้อะไรคืนมาจากกรณีนี้ คงจะยากสักหน่อย เพราะมันคือการ "โกง"
อย่างไรก็ตาม GGC ยืนยันว่า ระบบ internal audit หรือระบบตรวจสอบภายในที่บริษัทใช้อยู่นั้น มีความเป็นมาตรฐานดีอยู่แล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดจากการที่ "คน" จงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงาน
แต่จากปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทก็ได้จ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกเข้ามารีวิวระบบตรวจสอบภายในของบริษัทกันใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
นอกจากนั้น บริษัทได้เริ่มดำเนินการทางกฏหมายกับผู้เกี่ยวข้องทั้งภายนอกและภายในแล้ว และได้สอบสวนทางวินัยพนักงานที่เกี่ยวข้องแล้วด้วย
แต่ยังไงมันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ระบบการจัดการภายในของบริษัทมันมีช่องโหว่ที่พนักงานบางส่วนสามารถใช้ช่องโหว่ตรงนั้นเพื่อประโยชน์ของตนได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่อยู่ในเครือ ปตท. ที่เป็นองค์กรใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่คาดว่า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ก็ยิ่งทำให้ถูกมองว่านี่เป็นจุดบกพร่องที่ใหญ่มากจนไม่น่าให้อภัย
แม้จะพยายามบอกว่าเป็นการ "ทุจริต" แต่ถ้าหากมีระบบตรวจสอบภายในที่เข้มงวดรัดกุมกว่านี้ ก็อาจจะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้ก็เป็นได้
เรื่องผลประกอบการ จากนี้ก็คงกลับสู่ปกติ เพราะบริษัทรับรู้ขาดทุนไปหมดแล้ว จะเหลือไว้ก็แต่แผลเป็นที่คอยย้ำเตือนให้คนทั่วไปได้รู้ว่า ครั้งหนึ่ง การ "ทุจริต" ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ ในองค์กรระดับนี้