โดย MuaSamakLen
เผยแพร่ : 
66 viewsย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ ต้นปี นครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของประเทศจีน ถือเป็นพื้นที่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รุนแรงที่สุด จนต้องใช้มาตรการปิดเมือง ห้ามประชาชนเดินทางเข้าออกพื้นที่ หลังจากปิดเมืองนานกว่า 2 เดือน สถานการณ์ของนครอู่ฮั่นค่อย ๆ กลับฟื้นคืนสภาพปกติ และเตรียมประกาศเปิดเมืองในวันที่ 8 เมษายน 2563
กรณีศึกษาของซีพีที่เมืองอู่ฮั่น หลังจากมีการประกาศปิดเมืองวันที่ 24 มกราคม 2563 ประมาณหนึ่งสัปดาห์จากนั้น ในวันที่ 31 มกราคม ก็มีการประกาศให้พนักงานกลับเข้าทำงานในโรงงานได้ โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์ โรงงานแปรรูปอาหารของซีพีในเมืองอู่ฮั่น สามารถเดินเครื่องกลับมาผลิตได้
ระหว่างช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ภายใต้สภาวะ 3 ปิด คือ ปิดเมือง ปิดถนน และปิดชุมชน ซีพีในประเทศจีนผ่านบทเรียนในชีวิตจริง ถ่ายทอดประสบการณ์สู่ซีพีประเทศไทย ให้เตรียมความพร้อม ไม่ประมาท และนำความรู้มาแบ่งปันคนไทย ซึ่งบทเรียนจากผู้อยู่ในเหตุการณ์จริง อาจช่วยลดผลกระทบต่อคนไทยได้ไม่มากก็น้อย พอสรุปได้ ดังนี้
- มาตรการคนปลอดภัย อาหารปลอดภัย ถือเป็นหน้าที่ว่า พนักงานต้องปลอดภัย ลูกค้าจึงจะปลอดภัย ทำให้ซีพีจีนลงทุนอย่างมากเรื่องถุงมือยาง ชุดคลุมทั้งตัว แว่นตาแบบครอบ โดยพนักงานที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในโรงงานต้องผ่านมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้น เริ่มตั้งแต่การคัดกรองผ่านการวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนก่อนเข้าโรงงาน พนักงานต้องได้รับการประเมินประวัติเสี่ยง โดยการทำแบบคัดกรองของบริษัท
เมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในโรงงานจะต้องใส่ชุดป้องกันที่รัดกุม ทำความสะอาด 3 ครั้งต่อวันในพื้นที่ปฏิบัติงาน ระบบเข้าโรงงานเป็นระบบปิดฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ พร้อมบันทึกไว้ทุกขั้นตอน โดยพนักงานทุกคนต้องแจ้งสถานะสุขภาพตนเองทุกวัน หากมีอาการก็ต้องตรวจวัด ไม่ให้ไปเจือปนในกระบวนการผลิตเด็ดขาด และไม่สัมผัสวัตถุดิบ อาหาร และสินค้าก่อนถึงปลายทาง หรือที่เรียกว่า “อาหารแยกคน”
- ระบบตรวจสอบย้อนกลับที่มีประสิทธิภาพ รายงานข้อมูลต่อผู้บริหารทุกวัน เพื่อติดตามและตรวจสอบระบบการผลิต การขนส่ง และการบริหารจัดการได้ตลอด supply chain
- ผนึกกำลังกับภาครัฐ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าทุกคนจะมีอาหารรับประทานในช่วงวิกฤติอย่างไม่ขาดแคลน และให้ความมั่นใจกับรัฐบาลว่าสินค้าจะมีอย่างเพียงพอ โดยกำลังการผลิตอาหารต่อวันในอู่ฮั่นของซีพี คือ หมู 260,000 กิโลกรัม ไก่ 300,000 กิโลกรัม ไข่ 2.5 ล้านฟอง และอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน 500,000 ชุด สามารถผลิตได้ตรงตามเป้าหมาย
- ขอใบอนุญาตทำการขนส่งอาหารการขออนุมัติเคลื่อนย้ายพนักงาน การขออนุมัติเคลื่อนย้ายสินค้า วัตถุดิบ จนถึงได้รับใบอนุญาตส่งสินค้าข้ามเขต ผ่านการบริหารจัดการระบบ Zoning ของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้สามารถนำอาหารจากโรงงานผลิตไปสู่ประชาชนชาวจีนได้ รวมถึงสามารถส่งอาหารสัตว์ป้อนฟาร์มปศุสัตว์ต่าง ๆ ได้
- วางระบบศูนย์กระจายและขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สร้างมาตรฐานจัดและแพคสินค้า รวมทั้งระบบขนส่งครอบคลุมโดยประสานกับหน่วยงานในท้องถิ่นในการกระจายสินค้าส่งต่อ
- กระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภคผ่านการเชื่อมโยงชุมชนเข้มแข็งรวบรวมอาสาสมัครในแต่ละเขตพื้นที่และชุมชนทั่วนครอู่ฮั่นจำนวน 11,000 คน มาช่วยในการกระจายสินค้า โดยอาสาสมัครจะมารับสินค้าจากจุดหลักในการกระจายสินค้าและนำไปส่งต่อให้แก่พี่น้องในชุมชน ซึ่งอาสาสมัครเหล่านั้นจะรับใบสั่งซื้อหรือ Order ในวันถัดมากลับมาด้วย นอกจากซีพีในอู่ฮั่นจะดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของอู่ฮั่นในการจัดส่งอาหารให้ถึงมือประชาชนแล้ว ยังร่วมส่งอาหารให้อาสาสมัครด้วย พร้อมทั้งจัดชุดอุปกรณ์ป้องกันโรคให้ทุกคนสวมใส่
- สังคมปลอดเงินสด ลดการสัมผัส (Cashless)คนจีนยุคนี้ไม่จับเงินสด ใช้จ่ายออนไลน์เป็นนิสัย ทำให้ลดการติดเชื้อได้อย่างมาก และยังมีการสั่งของออนไลน์เป็นเรื่องปกติ โดยมาตรการต่างๆ ที่ซีพีในอู่ฮั่นได้ดำเนินการนั้น คือการออกแบบระบบส่งถึงบ้าน (Delivery) ซึ่ง CP Freshmart ในจีนส่งทั้งของสด อาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง ถึงบ้าน
นอกจากนี้ยังมีการวางแนวทางสุขอนามัยส่วนบุคคลของพนักงานอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติในปัจจุบันนี้ในทุกโรงงานที่ประเทศไทย 6 ขั้นตอน คือ
- ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อย ๆ หลังสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ หรือหลังไอ จาม
- กินร้อน ใช้ช้อนส่วนตัว ไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน
- หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่ที่มีคนแออัด
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลก่อนและหลังเลิกใช้งาน
- คนที่มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโรค เช่น แม่บ้าน แม่ครัว รปภ. พยาบาล ให้สวมหน้ากาก ถุงมือ
- ใส่หน้ากากอนามัยและทิ้งในถังขยะติดเชื้อที่ห้องพยาบาล
ทั้งหมดนี้คือเกร็ดความรู้ แนวทางจากประสบการณ์ของซีพีอู่ฮั่นที่อยู่เคียงข้างชาวจีนในนครอู่ฮั่น ในช่วงเวลาแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการสะท้อนให้เห็นถึงหน้าที่ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งความรู้จากซีพีจีนที่ถูกถ่ายทอดมายังซีพีประเทศไทยและเผยแพร่ไปยังคนไทย เพื่อใช้เป็นเกราะป้องกัน เป็นแนวทางและมาตรการสำคัญ ที่สามารถนำมาปรับใช้ เพื่อร่วมฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน และเพื่อเป็นการรับประกันว่า อาหารในประเทศไม่ขาดแคลนและส่งถึงมือคนไทย ด้วยความปลอดภัย รองรับความต้องการของประชาชนไทยในช่วงวิกฤต ในฐานะที่เครือเจริญโภคภัณฑ์อยู่คู่สังคมไทยมานานเกือบหนึ่งศตวรรษ จะร่วมเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญฝ่าฟันวิกฤตครั้งสำคัญให้ผ่านไปได้ด้วยดี
----------------
