ห้องเม่าปีกเหล็ก

เก็ง DTAC สิ้นสุดผลประกอบการขาลง ขณะอีกหลายปัจจัยรอท้าทาย

โดย 98 Degree
เผยแพร่ :
73 views

เก็ง DTAC สิ้นสุดผลประกอบการขาลง ขณะอีกหลายปัจจัยรอท้าทาย

 

 

 

DTAC หรือ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ราคาหุ้น (ศุกร์ 21 ต.ค.) บวกสวนทางกับผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ออกมาลดลง แต่ถือว่าดีกว่านักวิเคราะห์บางโบรกเกอร์ที่คาดไว้
 
กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 ออกมาที่ 658.71 ล้านบาท ลดลง 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (โพลล์รอยเตอร์คาด 630 ล้านบาท) สาเหตุหลักที่ฉุดกำไร เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นจากการลงทุนในโครงข่าย 
 
EBITDA margin ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 37.0% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ 33.4% และจากไตรมาสแรกอยู่ที่ 33.8% 
 
บริษัทฯ ยังประมาณการรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายของปีนี้ โดยคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากปี 2558 รวมทั้งคงประมาณการเงินลงทุนไว้ที่ระดับเดียวกับปีที่แล้ว แต่ได้ปรับประมาณการในส่วน EBITDA ในปีนี้ ว่ามีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ EBITDA อยู่ในระดับทรงตัวที่ -0.2%
 
มุมมองนักวิเคราะห์หลายสำนักมีความเห็นต่อหุ้น DTAC แตกต่างกันไป รวมทั้งการคาดการณ์ที่สนับสนุนราคาหุ้นในช่วงสั้น คือผลประกอบการที่สิ้นสุดภาวะขาลงในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
 
อย่างโบรกเกอร์ค่าย “ทิสโก้” คาดผลประกอบการ DTAC ไตรมาส 3 ถึงจุดต่ำสุดแล้ว แม้ว่าจำนวนผู้ใช้บริการจะลดลง 1.32แสนราย แต่รายได้ยังคงที่ และมีเงินอุดหนุนค่าเครื่องที่ลดลง ประกอบกับในช่วงนี้ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดจะต่ำลงกว่าช่วงภาวะปกติ 
แต่สิ่งที่จะสร้าง Upside ให้กับ DTAC ในระยะยาวคือความจำเป็นต้องได้คลื่นเพิ่ม ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 2560 
 
“ทิสโก้” แนะนำ “ซื้อ” DTAC ให้ราคาพื้นฐาน 52 บาท
 
ส่วนโบรกเกอร์ค่าย “ทรีนีตี้” ในบทวิเคราะห์ระบุว่า กำไรไตรมาส3 ของ DTAC ดีกว่าที่คาด จากก่อนหน้าที่เคยกังวลว่าจะมีผลขาดทุน 
 
นักวิเคราะห์แนะนำ DTAC เป็น “Trading Buy” เพราะมองว่ากรอบราคาแถว 30 บาท ถือว่าเป็นจุดซื้อเพื่อเก็งกำไรได้ดี เพราะเชื่อว่าข่าวร้ายสะท้อนในราคาไปหมดแล้ว พร้อมกับให้ราคาพื้นฐาน 38.64 บาท
 
แม้จะมีมุมมองเชิงบวกต่อ DTAC มากขึ้น เพราะการมองข้ามช็อตไปยังปีหน้า แต่ในระหว่างทาง บริษัทฯ ยังอาจเจอแรงกดดันหลายด้าน ซึ่งมีนักวิเคราะห์อีกบางค่ายที่แนะนำให้เลี่ยงหุ้น DTAC เพราะยังมีความเสี่ยงด้านการทำธุรกิจสูงพอสมควร
 
"เคทีบี(ประเทศไทย)" นักวิเคราะห์ยังคงมีมุมมอง DTAC เหมือนที่ผ่านมา กับการที่หุ้นไม่มีปัจจัยบวกที่สามารถกระตุ้นผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งบริษัทฯ ยังถูกแรงกดดันจากการแย่ง market share จากผู้เล่นรายอื่นในตลาด 
 
ในส่วนจุดเด่นในเรื่องเงินปันผล นักวิเคราห์คาดเงินปันผลต่อหุ้นทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 1.60 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield ที่ 5.2% แต่ด้วย retained earning ปัจจุบัน เชื่อว่ามีโอกาสที่ DTAC จะสามารถจ่ายเงินปันผลในระดับนี้ต่อไปได้อีกแค่เพียง 2 ไตรมาสเท่านั้น
 
โบรกเกอร์รายนี้ ยังคงคำแนะนำ “ขาย” DTAC ด้วยราคาเหมาะสม 29.00 บาท 
 
เช่นเดียวกับ "ดีบีเอส วิคเคอร์ส" (ประเมินราคาพื้นฐาน DTAC 33.00 บาท) นักวิเคราะห์มองราคาหุ้นปัจจุบันเต็มมูลค่าแล้ว โดยในระยะยาวบริษัทฯ มีความเสี่ยงจากสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่จะหมดอายุลงในเดือน ส.ค. 2561 ซึ่งหากบริษัทฯ ไม่สามารถประมูลคลื่นมาทดแทนได้ในอนาคต ก็จะมีผลกระทบต่อคุณภาพในการให้บริการที่ด้อยลงได้
 
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญยังอยู่ที่การแข่งขันรุนแรง ทำให้มีโอกาส DTAC จะตกอันดับมาเป็นที่ 3 สำหรับส่วนแบ่งครองตลาดด้านรายได้ เนื่องจากไม่แข่งขันเรื่องสนับสนุนเครื่องโทรศัพท์ ซึ่งแตกต่างจาก TRUE ที่มีโอกาสขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 เพราะรุกตลาดอย่างมากด้วยกลยุทธ์การแจกเครื่องโทรศัพท์ฟรี หรือใช้โปรโมชั่นราคาเครื่องถูก
 
*********************************
ทีม Business&Finance , Money Channel
 

98 Degree