หุ้นไทยปิดลบ 4.51 จุด ลงตามภูมิภาค หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงเกินคาด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 14 กันยายน ปิดที่ระดับ 1,656.58 จุด ลดลง 4.51 จุด (-0.27%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,660.42 จุด ต่ำสุดที่ 1,642.53 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 72,610.35 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.โอยูบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนส.ค.ออกมาสูงกว่าคาด
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดโลก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่ปรับลงมาน้อยกว่าตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากประเทศในกลุ่มนี้มีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตได้ดีในช่วง 2 ปีข้างหน้า สวนทางเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐที่มีโอกาสถดถอย เนื่องจากเอเชียได้รับผลกระทบน้อยกว่า
ปัจจัยที่ทำให้กลุ่มประเทศอาเซียนมีแนวโน้มทางเศรษฐกิจเติบโตมาจากการเปิดเมืองหรือการเปิดประเทศ, มีเงินทุนสำรองสูง โดยสิงคโปร์มีเงินทุนสำรองติดอันดับ 12 ของโลก, ไทย อันดับที่ 15, อินโดนีเซีย อันดับที่ 22, มาเลเซีย อันดับที่ 24, เวียดนาม อันดับที่ 26 และฟิลิปปินส์ อันดับที่ 28
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ตลาดฯ ในระยะสั้นนี้น่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบเพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเท่าใด ภาพดังกล่าวยังเป็นแรงกดดันในระยะนี้ให้แนวรับ 1,640 จุด และแนวต้าน 1,686 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,892.77 ล้านบาท ปิดที่ 622.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
- TLI มูลค่าการซื้อขาย 3,481.32 ล้านบาท ปิดที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
- SCC มูลค่าการซื้อขาย 3,319.75 ล้านบาท ปิดที่ 346.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
- CH มูลค่าการซื้อขาย 2,330.85 ล้านบาท ปิดที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น0.72 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,845.82 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 1.00 บาท