หุ้นไทยจะกลับมา 1450 จุด ** เขาบอกมาแบบนี้นะ

KS Daily View 26.11.2020

ระยะสั้นคาด SET กลับมาแกว่งกรอบ 1,405จุด+/- รอดูการชุมนุม 5วัน / ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญาณชะลอตัว วันนี้แนะ SAWAD, BEM, TOP

>> ระยะสั้นคาด SET กลับมาแกว่งกรอบ 1,405จุด+/- รอดูการชุมนุม 5วัน / ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญาณชะลอตัว

>> หากนับปัจจัยเฉพาะต่างประเทศ พบว่าตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 13% MTD ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นรายเดือนมากที่สุดในรอบ 32 ปี จากทั้งผลการเลือกตั้งสหรัฐแบบ Gridlock ที่นักลงทุนประเมินว่าจะลดความขัดแย้งในเชิงนโยบายต่างประเทศ เช่นสงครามการค้า, ข้อตกลงปารีส, การคว่ำบาตรประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงโอกาสการกลับมาเข้าร่วม CPTPP ตามมาด้วยความคืบหน้าของวัคซีนมีพัฒนาการในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมาก ภายหลัง 3บริษัทชั้นนำอย่าง Pfizer, Moderna และ AstraZeneca ต่างรายงานผลการทดลองวัคซีนระยะที่สาม ออกมาในประสิทธิผลสูงกว่า 70-95% และมีการประเมินว่าอาจเริ่มเห็นการฉีดในเดือนธ.ค.เป็นต้นไป

>> การทยอยเปิดเผยรายชื่อคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจอย่างรมว.คลังอย่าง Yellen ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานเฟดในช่วงปี 2014-18 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากที่ตลาดรอคอย ภายหลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงมานานกว่า 3เดือน ซึ่ง 5 จาก 9 โครงการจะสิ้นสุดลงสิ้นเดือนธ.ค.นี้ โดยเฉพาะ Primary Market Corporate Credit Facility (PMCCF), Municipal Liquidity Facility, Term Asset-Backed Securities Loan Facility ในขณะที่ปัจจุบันประชากรสหรัฐมากกว่า 12ล้านคนยังตกงาน ซึ่งหากส.ว.รับรอง Yellen จะเข้ามาช่วยจัดการกับปัญหาดังกล่าวและคาดว่านโยบายต่างๆจะตกลงกับ Nanci Pelosi ได้ง่ายเมื่อเทียบกับ Steven Mnuchin ในขณะเดียวกันเราเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ เช่นรายรับ (Personal Income) หดตัว 0.7% จากที่คาดว่าจะเติบโต ภายหลังซึ่งเป็นผลจากยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานออกมาเริ่มทยอยสูงขึ้นอีกครั้งที่ 7.78 แสนราย

>> สำหรับตลาดหุ้น SET Index ปรับขึ้นสูงสุดในภูมิภาคที่ 18% MTD เมื่อเทียบกับ EM+10% จนทำให้ ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและพันธบัตร หรือ EYG(%) ปรับลดลงมาเหลือต่ำกว่า 3.8% หรือคิดเป็นระดับต่ำกว่า -1S.D. ทำให้เราประเมินว่าในระยะสั้นมีโอกาสที่ SET จะเข้าสู่ช่วงการปรับฐานกรอบ 1,370-1,445 จุด ซึ่งในระหว่างการปรับฐานรอบนี้คาดว่า 2ปัจจัยบวกและลบที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดนั่นคือ การยกระดับหรือการผ่อนคลายของการชุมนุมใน 5 วันนี้ โดยคาดว่ากลุ่ม Domestic play อย่างกลุ่มธนาคารจะเริ่มพักฐาน ในขณะที่กลุ่มพลังงานจะได้ Sentiment บวกหากว่าผลการประชุม OPEC ในสัปดาห์ออกมาในทิศทางที่ขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันไปเพิ่มอีก 6เดือน ซึ่งวันนี้เรามีการปรับประมาณการกลุ่มพลังงานขึ้น และเลือก PTTEP, TOP, PTTGC เป็นหุ้นแนะนำในปีหน้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทวิเคราะห์อุตสาหกรรมฉบับพื้นฐาน)

>> มุมมองตลาดหุ้น/ กลยุทธ์การลงทุน วันนี้คาด SET พักฐานในกรอบ 1,405-10จุด+/- แนะสะสม SAWAD, BEM, รอซื้อ TOP กรอบ 49.0+/-

------------------------------

>> หุ้นแนะนำ SAWAD (พื้นฐาน 66.25 บาท) การร่วมทุนกับออมสินจะมุ่งไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่แตกต่างจากพอร์ตเดิมของบริษัทฯ ซึ่งจะลดความกังวลต่อประเด็นผลกระทบแบบ cannibalization ลง โดยคาดว่า non-NII จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของกำไรปี 2564-65

>> TOP (พื้นฐาน 49.00 บาท) คาด GRM ฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2/2564 และคาดว่าราคาจะสูงขึ้นหลังผลทดลองวัคซีนโควิด-19 สำเร็จ

>> BEM (พื้นฐาน 10.60 บาท) ปริมาณจราจรบนทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ฟื้นตัวขึ้นเร็ว, ผลการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เอื้อประโยชน์, ความคืบหน้าของการประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงและความคืบหน้าของโครงการทางด่วน 2 ชั้น