นายธานินทร์ สมบูรณ์  อธิบดีกรมทางหลวง  กล่าวว่า "กรมทางหลวงได้รับงบประมาณปี 2561 จำนวน 101,000  ล้านบาท   เป็นการลงทุนเส้นทางใหม่ 59 โครงการ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี  13 โครงการ มูลค่า  2 หมื่นล้านบาท   ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาภายในเดือนสิงหาคม  และลงนามในสัญญาทั้งหมดภายในเดือน ธันวาคม2560  โดยกรมทางหลวงจะแบ่งมูลค่าโครงการให้เป็นขนาดกลางและเล็กมากขึ้น  ทำให้งานที่มีมูลค่าระดับ 500 ล้านบาท  เพิ่มเป็น 35 โครงการ จากปีที่ผ่านมามี 4 - 5 โครงการ และจะเร่งลงนามให้ได้ในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนโครงการขนาดใหญ่เกิน 1,000 ล้านบาท จะพยายามลงนามให้ได้ในสิ้นปีนี้"

 

ด้านนายธีรพันธ์  เตชะศิรินุกูล  รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ รฟม. และรักษาการผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า "รฟม.จะเร่งคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาเพื่อจัดทำรายงานความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการลงทุนรถไฟฟ้า จังหวัดภูเก็ต วงเงินประมาณ  30,100 ล้านบาท   ภายใน 3 เดือน และคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีช่วงกลางปี 2561"

 

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าภูมิภาค โดยการก่อสร้างรถไฟฟ้าหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วงเงิน 16,100  ล้านบาท  ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามความเห็นของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

การสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยโดยเฉพาะถนน ซึ่งเป็นการคมนาคมหลักของประเทศไทย ถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกต่อการขนส่งมาก เพราะเขตตะวันออกของไทยมีการติดต่อ การขนส่งทางทะเล และมีนิคอุตสาหกรรมมากมาย จึงมีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคและประเทศไทยได้ 

 

ส่วนทางด้านจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เป็นเกาะ มีนักท่องเที่ยวมากมายมาที่ภูเก็ต การคมนาคมโดยรถไฟฟ้าจะอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ได้ดี รวมไปถึงหาดใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมากและมีนักท่องเที่ยวมากมายเช่นกัน

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มลพิษที่เกิดขึ้น ต้นทุนสิ่งแวดล้อมต่างๆ และสุขภาพของชาวบ้านละแวกใกล้เคียงในช่วงการก่อสร้างและหลังก่อสร้าง โดยจะต้องมีการควบคุมไม่ให้มีผลกระทบในทางลบต่อชาวบ้านและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดก่อนจะก่อสร้าง

 

ที่มา money channel