ห้องเม่าปีกเหล็ก

“อาคม”เดินหน้าเก็บภาษีขายหุ้นภายในปีนี้

โดย ฮ นกฮูก
เผยแพร่ :
83 views

“อาคม”เดินหน้าเก็บภาษีขายหุ้นภายในปีนี้ เผยตั้งแต่บาทแรกในอัตรา0.1%

“อาคม”ยันเก็บภาษีขายหุ้นปีนี้ ชี้เป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะตลาดมีการเติบโตและไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด ประเมินรายได้เข้ารัฐนับหมื่นล้าน โดยจะจัดเก็บตั้งแต่บาทแรกในอัตรา 0.1% โดยโบรกเกอร์จะเป็นคนจัดเก็บและนำส่งกรมสรรพากร

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังเดินหน้านโยบายเก็บภาษีจากการขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax โดยมีแผนจะเข้าจัดเก็บภายในปีนี้ ซึ่งเห็นว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจาก ตลาดหุ้นมีการเติบโตและไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากในประเทศ

“ปีนี้จะเห็นการเก็บภาษีการขายหุ้น ซึ่งเราได้ยกเว้นมานานกว่า 30 ปีแล้ว ถามว่า ตอนนี้ ตลาดหุ้นโตขึ้นหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า โตขึ้น ขณะที่ ภาครัฐยังแบกรับภาระให้ ซึ่งการช่วยเหลือก็ต้องมีระยะเวลาที่แน่นอน เหมือนตอนที่เราส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ เมื่อถึงเวลาที่เติบโต เขาก็ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล”

เขากล่าวด้วยว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด ตลาดหุ้นไทยก็ผันผวนไปตามเหตุการณ์ภายนอก ซึ่งไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในประเทศเลย ดังนั้น หากภาครัฐจะเข้าจัดเก็บภาษีดังกล่าว ก็ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม

อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะดำเนินการจัดเก็บทางกระทรวงการคลังจะมีการแจ้งให้ตลาดรับทราบเป็นการล่วงหน้า ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้ทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตลาดหลักทรัพย์และสภาธุรกิจตลาดทุนแล้ว เนื่องจาก เป็นภาษีเดิม ไม่ใช่ภาษีตัวใหม่ ขณะนี้ ก็เข้าในตรงกันแล้ว

“เราหารือกับตลาดมาตลอดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งตอนแรกตลาดไม่รับเลย แต่ตอนหลังก็เข้าใจ เพราะถ้าโดนเก็บ Capital gain จะโดนหนักกว่านี้”

สำหรับแนวทางการจัดเก็บนั้น เขากล่าวว่า จะยึดตามหลักการเดิม กล่าวคือ จัดเก็บจากยอดขายในอัตรา 0.1% โดยจะจัดเก็บเป็นรายเดือน ซึ่งโบรกเกอร์จะเป็นผู้ส่งยอดมาให้กรมสรรพากร

“หลักการเก็บจะยึดตามเดิม ถ้าเราแยกจะยุ่งยากเรื่องการบริหาร เช่น ถ้าเราบอกว่า ถ้ายอดขายหุ้น 1 ล้านบาท เราจะเก็บในอัตราต่ำกว่าคนที่มียอดขายสูงกว่า 1 ล้าน ก็ยุ่งยาก ซึ่งในกฎหมายที่ออกมาจะเก็บแบบเท่าเทียมกัน คือ เก็บจากภาษีการขาย ไม่แยกว่า จะเป็นรายเล็กหรือรายน้อย ซึ่งง่ายสุด คือ เก็บเท่ากันหมด ประเทศต่างๆก็ไม่แยกแยะการขาย”

เขาประเมินว่า รัฐบาลจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวหลักหมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งน่าจะเริ่มมีผลต่อการจัดเก็บรายได้ในปีงบ 65 นี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติออกเป็นกฎกระทรวง

สำหรับแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 65 นั้น เขากล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหา โดยกระทรวงการคลังได้เพิ่มเป้าหมายการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเพิ่มอีก 5% ขณะเดียวกัน หลังกระทรวงการคลังกำหนดให้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มธุรกิจอีเซอร์วิสจากแพลทฟอร์มต่างประเทศ ขณะนี้ ก็มีรายได้เข้ามาเกินเป้าหมาย

ส่วนการจัดเก็บภาษีตัวใหม่อื่นๆนั้น เขากล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังยังไม่มีแผนที่จะจัดเก็บภาษีตัวใหม่ อย่างไรก็ดี ยังมีภาษีใหม่ที่อยู่ระหว่างการศึกษา เช่น ภาษีโซเดียม ซึ่งทางกรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงสาธารณสุข

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า ภาษีขายหุ้นดังกล่าว เป็นนโยบายการจัดเก็บภาษีเพิ่มสำหรับปี 2565 ของกระทรวงการคลัง โดยเป็นการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา 0.1% หลังจากที่ภาษีดังกล่าวได้รับการยกเว้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2534

อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาของคณะกรรมการปฏิรูปภาษีนั้น ได้มีการหารือถึงอัตราการจัดเก็บที่ 0.1% ของการซื้อขายหุ้นที่เกินกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจาก ในฝั่งตลาดทุนได้โต้แย้งการจัดเก็บภาษีการขายตั้งแต่บาทแรก เนื่องจาก กังวลจะกระทบต่อภาพรวมตลาดทุน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย

ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า ปัจจุบันมีนักลงทุนที่ขายหุ้นมูลค่าเกินกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน อยู่ประมาณ 80% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด และ ขายหุ้นมูลค่าเกินกว่า 2.5 ล้านบาทต่อเดือน อยู่กว่า 90% ของนักลงทุนทั้งหมด

สำหรับอัตราการจัดเก็บนั้น ถูกกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากรอยู่แล้วที่ 0.1% ของการขาย แต่ได้รับการยกเว้น ซึ่งกระทรวงการคลังจะยึดตัวเลขนี้ เพราะเป็นอัตราที่ต่ำ อย่างไรก็ดี อัตราภาษีดังกล่าวยังไม่ได้เป็นอัตราภาษีสุทธิที่จะจัดเก็บ โดยจะต้องนับรวมภาษีท้องถิ่นที่จะTop up เพิ่มขึ้นมาอีก 10% ดังนั้น อัตราภาษีที่จะจัดเก็บจะอยู่ที่ 0.11%

ส่วนแนวทางการจัดเก็บภาษีจากตลาดหุ้นในประเทศต่างๆนั้น ในบางประเทศจะมีการเก็บทั้งภาษีการขายหุ้นและกำไรจากการซื้อขายหุ้น แต่บางประเทศก็เก็บเพียงบางตัว ยกตัวอย่าง กรณีอินโดนีเซียเก็บ 0.1%จากการขายหุ้น , เวียดนาม 0.1%จากการขายและกำไรจากการขายหุ้น 20% , มาเลเซีย เป็นการเก็บจากอากรแสตมป์จากการซื้อและขาย 0.1%

ส่วนสิงคโปร์ยกเว้น , ฟิลลิปปินส์ 0.6%ของราคาขาย และ 15% กำไรการซื้อขาย , จีนเก็บ 0.1%จากการขายและซื้อ , ฮ่องกง 0.13% จากการขายและซื้อ (เพิ่งเก็บปีที่แล้ว)

ญี่ปุ่น ไม่เก็บ แต่เก็บกำไรจากการซื้อขาย 20.3% , เกาหลี 0.23% จากการขาย และ กำไรจากการซื้อขายระยะสั้นน้อยกว่า 1 ปี 33% ถ้าระยะยาว 22%

ไต้หวันเก็บ 0.3%จากการขาย , อังกฤษ 0.5% จากการซื้อ ส่วนสหรัฐอเมริกา ไม่เก็บภาษีขาย แต่เก็บจากกำไรการซื้อขายระยะยาว 15-20%

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า หากภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจนว่า จะดำเนินการจัดเก็บภาษีดังกล่าวเมื่อใด ก็สามารถทำได้ทันที โดยออกเป็นประกาศกระทรวงให้จัดเก็บ เนื่องจาก มีข้อกฎหมายในประมวลรัษฎากรที่กำหนดไว้อยู่แล้ว แต่ได้รับการยกเว้นมานานกว่า 30 ปี

 


ฮ นกฮูก