Value investing การลงทุนเน้นคุณค่าคือหลักคิดการลงทุนที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเป็นเพราะว่ามันได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากวอร์เร็น บัฟเฟตต์
Cr. Business Insider
เด็กรุ่นใหม่หรือแม้กระทั่งคนรุ่นเก่าต่างรู้มาว่าการลงทุนเน้นคูณค่า คือ อะไรซักอย่างที่ทำให้บัฟเฟตต์กลายมาเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกมาแล้ว แล้วทำไมพวกเขาจะรวยแบบบัฟเฟตต์ไม่ได้ละ ?
สำหรับบทความนี้ผมอยากจะขยายความถึงความจริง 2 ประการที่นักลงทุนเน้นคุณค่าเหล่านี้ไม่เคยบอกคุณเลย ... มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ
ข้อที่ 1 : ผลตอบแทนที่สุดยอด ต้องมาจากหุ้นขนาดเล็กเท่านั้น
นักลงทุนจำนวนมากเข้าใจว่า ถ้าพวกเขาอยากจะเอาชนะตลาด ต้องลงทุนในหุ้นที่มี Market Cap. ขนาดเล็ก ซึ่งความจริงข้อนี้ถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ใช่แล้ว! คุณ"อาจจะ"ได้รับผลตอบแทนสุดยอดจากหุ้นขนาดเล็ก แต่ในระยะยาวแล้วหุ้นขนาดใหญ่กลับสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นขนาดเล็กเหล่านี้ซะอีก
มันเป็นแนวคิดที่อันตรายมากสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในตลาดหุ้นแล้วเข้ามาซื้อหุ้นเล็ก หุ้นขนาดเล็กจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ถ้า .....
1) บริษัทขนาดเล็กเหล่านั้นกำลังอยู่ในช่วงเติบโต
2) บริษัทขนาดเล็กเหล่านั้นกำลังขยายไปยังธุรกิจอื่น
3) บริษัทขนาดเล็กเหล่านั้นกำลังขยายช่องทางรายได้ไปยังต่างประเทศ
มีตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นว่าหุ้นใหญ่สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า และเหมาะสมมากกับนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้ฉลาดหรือมีความสามารถพิเศษในการลงทุนเฉกเช่น วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ... เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่กลายมาเป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีสำคัญในตลาดอเมริกา และสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้มากกว่า 300% มาตลอด 4 ปี (เท่ากับว่าบริษัทเหล่านี้วิ่งขึ้นปีละ 30% เลยทีเดียว)
หุ้นเล็กในผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นใหญ่ไม่มาก แต่ความเสี่ยงที่แลกมามีความผันผวนมากกว่าหุ้นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ กำไรที่ทำได้ ความสามารถทางการแข่งขัน เป็นต้น
(ที่มา : Efficient Frontier)
บริษัทขนาดใหญ่มีอัตราการเติบโตที่ดีกว่า เพราะพวกเขาแข็งแกร่ง มีงบดุลที่แข่งแรง มีคูเมืองแห่งความปลอดภัยที่ไม่ใช่ใครจะเข้ามาแข่งขันด้วยได้ง่าย และมีโมเดลธุรกิจที่ได้รับการทดสอบแล้วว่าประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันบริษัทขนาดเล็กเหล่านั้นยังต้องผ่านการทดสอบอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ เรื่องของประสิทธิภาพการแข่งขันในระยะยาว
ข้อที่ 2 : หุ้นมูลค่าถูกๆ สามารถหาได้โดยวัดจากค่า P/E ต่ำ หรือ P/BV ต่ำ
หลักการพื้นฐานการลงทุนเน้นคุณค่า คือ ซื้อหุ้นที่มีมูลค่าถูกๆ (undervalued) การตีความหมายของคำว่า "undervalued" เป็นอะไรที่ผิดเพี้ยนและเกิดการเข้าใจผิดกันค่อนข้างมาก
บ่อยครั้ง คำว่า "undervalued" ก็ถูกยึดติดอยู่กับค่า P/E ratio ที่ต่ำ หรือค่า P/BV ที่ต่ำนั้น หมายถึงหุ้นถูกๆ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนี้ที่จะชี้ชัดลงไปว่า หุ้นที่มีค่า P/E ต่ำ คือ หุ้นถูกๆ การมองค่าอัตราส่วนเหล่านั้นเป็นศิลปะมากกว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์
ผลตอบแทนเฉลี่ยหุ้นที่มีค่า P/E หรือ P/BV ในแต่ละช่วง
(ที่มา : Stable Investor)
มีเหตุผลมากมายที่ทำให้หุ้นเหล่านั้นมีค่า P/E ต่ำ และไม่ได้หมายความว่าหุ้นเหล่านั้นเป็นหุ้นถูกๆ เราดูสาเหตุเหล่านั้นกันครับ
1) กำไรนิ่งมาก อาจจะมีสักปีหนึ่งที่เกิดมีกำไรพิเศษขึ้นมา ซึ่งกำไรพิเศษส่งผลให้ตัว E หรือ "Earning" มากขึ้น ทำให้ค่า P/E ลดต่ำลง
2) บริษัทมีการเติบโตที่จำกัด (หรือแทบจะไม่เติบโตเลย)
3) บริษัทมีปัญหาด้าน CG หรือธรรมาภิบาล บริษัทไม่มีความโปร่งใส กองทุนสถาบันไม่ให้ความสนใจ
4) บริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมตะวันตกดิน
เราเรียนรู้อะไรบ้างจากบทความข้างต้น