ผลงานไตรมาสแรก 3 หุ้นค่ายมือถือ DTAC คุมต้นทุน ดันกำไรสุทธิโตสวนกลุ่ม
อย่างที่เราทราบกันดี lockdown เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ Work From Home มีกระแสการตอบรับดีต่อเนื่อง ส่งผลต่อความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นผลดีต่อ Operator ทำให้ยอดการใช้ DATA เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากมีการใช้งานในแพ็กเกจ Fix Speed Unlimited ก็เท่ากับว่าไม่จำเป็นต้องซื้อเน็ตเพิ่มก็ได้
อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ได้รุนแรงมากขึ้น และกระจายเป็นวงกว้างทั่วโลก ทำให้แต่ละประเทศมีมาตรการ lockdown เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ได้ประกาศมาตรการ lockdown ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เท่ากับว่าไตรมาส 1/2563 ก็จะได้รับผลของ lockdown ประมาณ 1 เดือน
แต่การ lockdown ก็ทำให้มีมาตรการปิดห้างหรือศูนย์การค้า โดยหุ้นค่ายมือถือต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะไม่สามารถเปิด SHOP เพื่อจำหน่ายสินค้าได้ ดังนั้นบทสรุปไตรมาส 1 ของ 3 หุ้นค่ายมือถือ ประกอบด้วย ADVANC, DTAC และ TRUE จะเป็นอย่างไร วันนี้ Wealthy Thai ได้หาคำตอบมาให้นักลงทุน เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนแล้ว
ADVANC ไตรมาส 2 ทำจุดต่ำสุด
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,756 ล้านบาท ลดลง 10.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,570 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ไม่รวมผลจากมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 16 (TFRS 16) บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,004 ล้านบาท ลดลง 7.5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,570 ล้านบาท และลดลง 0.9% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,065 ล้านบาท เป็นผลจากค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้น ประกอบกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ประเมินว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2563 เนื่องจาก 1.ผลกระทบจากภาวะการแข่งขันทางด้านราคา 2.มาตรการของภาครัฐฯ เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้บริโภค (โทรฟรี 100 นาที และอินเตอร์เน็ตฟรี)
3.มาตรการปิดเมืองที่ยังดำเนินการต่อในช่วงเดือน เม.ย. ส่งผลต่อช่องทางการจำหน่าย และ 4. ผลกระทบจากมาตรการปิดน่านฟ้า จำกัดการบินระหว่างประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง กระทบรายได้ในส่วนของการใช้บริการในต่างประเทศ อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยดังกล่าวจะกดดันต่อรายได้ในระยะสั้นเท่านั้น หากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ภายในครึ่งปีแรก 2563 รวมทั้งแนวโน้มการเปิดเมือง จะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการในครึ่งหลัง 2563 คงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 236.00 บาท และคาดเงินปันผลในปี 2563 ที่ 6.98 บาท
DTAC ไตรมาส 1 ดีกว่าคาด
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,297 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 89.1% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิยู่ที่ 794 ล้านบาท โดยปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้ตัดจำหน่าย (EBITDA)
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2563 มี EBITDA อยู่ที่ 7,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มี EBITDA อยู่ที่ 7,341 ล้านบาท เป็นผลมาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และเพิ่มขึ้น 4.5% ไตรมาสก่อน ที่มี EBITDA อยู่ที่ 7,339 ล้านบาท เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาสก่อน
สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด มองว่า กำไรสุทธิดังกล่าว ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาด แต่อย่างไรก็ตาม หากหักรายการพิเศษออกแล้วผลประกอบการจะอยู่ที่ 1,377 ล้านบาท ตามคาด ทั้งนี้แม้ว่ารายได้ของ DTAC จะลดลงจากไตรมาส 4/2562 แต่เชื่อว่าผู้ใช้บริการที่ลดลงในเดือน ก.พ.–มี.ค. จะเห็นผลชัดเจนในเดือน เม.ย. และด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้คาดว่าผลประกอบการจะชะลอตัวลงต่อในช่วงไตรมาส 2-3/2563 ก่อนที่จะฟื้นตัวในไตรมาส 4/2563 หลังนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา และเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยยังคงผลประกอบการปี 2563 ที่ 5.6 พันล้านบาท แนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 48 บาท (DCF)
TRUE ไตรมาส 1 ยังดีกว่าคาด
TRUE รายงานงบไตรมาส 1/2563 ขาดทุนสุทธิ 161.2 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบเชิงลบจากการปรับมาใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 16 ราว 200 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิกำไรสุทธิ 211 ล้านบาทในไตรมาส 4/2562 และกำไรสุทธิ 1,509 ล้านบาทในไตรมาส 1/2562 เนื่องจากทั้งสองไตรมาสมีกำไรพิเศษจากจากการเพิ่มมูลค่าของ DIF และการขายเงินลงทุนใน DIF ซึ่งหากไม่รวมผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีดังกล่าว TRUE จะมีกำไรงวดไตรมาส 1/2563 เท่ากับ 48 ล้านบาท
มุมมองนักวิเคราะห์ บริษัท หลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุว่า จากประเด็นดังกล่าวมีมุมมองเป็นบวก เนื่องจากผลประกอบการออกมีดีกว่าที่ตลาดคาด โดย Consensus คาดว่า TRUE จะขาดทุนสุทธิราว 424.29 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง ประกอบกับผลประกอบการในไตรมาส 2/2563 จะมีการรับรู้ค่าเสื่อมคลื่น 2600HMz เข้ามาเต็มไตมาสราว 300 ล้านบาท จึงแนะนำเพียง “Trading Buy”
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก