ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง" ใช้เวลา 45 นาที พูดถึงวิสัยทัศน์เศรษฐกิจ "Belt and Road Initiative" ในการประชุมสุดยอดพิเศษที่จัดขึ้นสำหรับโครงการพัฒนานานาชาตินี้ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากจะให้รายละเอียดโครงการนี้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังสร้างความชัดเจนต่อผู้นำและตัวแทนของรัฐบาล 29 ประเทศที่เข้าร่วมว่า "วัตถุประสงค์ในบั้นปลายของจีนคืออย่างไร"
สี หยิบความคิดจาก "เส้นทางสายไหม" โบราณที่เชื่อมโยงการค้าเอเชียและยุโรป มาประยุกต์ใช้ ทั้งปรับแต่ง ขยายขนาดและเพิ่มเติมหลายสิ่งเข้าไป ไม่เพียงเชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปเท่านั้น แต่ไปถึงแอฟริกา และอเมริกาในการเชื่อมต่อทางการค้าและการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน
เมื่อต้นปีนี้ "ฟิตช์" บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ประเมินโครงการนี้ไว้ว่า "ไม่ธรรมดา" เพราะมีมูลค่าโครงการสูงถึง 900,000 ล้านดอลลาร์
"แมคคินซี" บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ให้ข้อมูลเพิ่มว่า โครงการนี้โดยรวมใหญ่กว่า "แผนการมาร์แชล" แผนงานของสหรัฐเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเกี่ยวพันกับประชากร 65% ของโลก พื้นที่ตามโครงการนี้มีจีดีพีรวมกันเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของจีดีพีทั้งโลก และมีศักยภาพทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการมากถึง 1 ใน 4 ของทั้งโลก
อ่านต่อที่นี้ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1495005825
ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง มาช่วยกันคิดครับ