หุ้นไทยปิดลบ 1.97 จุด แรงขายกลุ่มพลังงานฉุด ได้ DELTA ช่วยพยุง

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 2 ตุลาคม ปิดที่ระดับ 1,469.46 จุด ลดลง 1.97 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 45,356.23 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 669.62 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 492.06 ล้านบาท
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหวบวกและละลบสลับกันโดยที่มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันปรับตัวลงเป็นปัจจัยฉุด แต่แรงซื้อกลับหุ้น DELTA ช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีลงไปมาก
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน แม้ปัจจัยจากต่างประเทศเรื่องร่างงบประมาณของสหรัฐจะผ่านแล้ว ทำให้คลายกังวลการชัตดาวน์หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ แต่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่
รวมถึงปัจจัยในประเทศที่ยังมีแรงกดดัน โดยเฉพาะจากเงินบาทอ่อนค่าลงมากใกล้ 37 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงกดดัน ส่วนตลาดหุ้นเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวสลับบวกและลบเช่นกัน
แนวโน้มพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) คาดแกว่งไซด์เวย์ เกาะติดการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่ และติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะทยอยออกมาในสัปดาห์นี้ ให้แนวต้าน 1,480 จุด แนวรับ 1,460 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 5,325.22 ล้านบาท ปิดที่ 87.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,160.78 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,741.17 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,570.68 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
- SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,260.80 ล้านบาท ปิดที่ 101.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.93 อ่อนค่าสุดรอบ 11 เดือน พรุ่งนี้มีลุ้นทะลุ 37 บาท
ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 2, 2023 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.93 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.74 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางตาลาดโลก แต่อ่อนค่ามากสุดในภูมิภาค ระหว่างวันเคลื่อนไหวใน กรอบ 36.69 - 36.93 บาท/ดอลลาร์
"บาทปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องทำนิวไฮในรอบ 11 เดือน อ่อนค่าสุดในภูมิภาค อาจเป็นผลจากการนำเข้าทองคำและน้ำมัน แนว โน้มพรุ่งนี้มีโอกาสอ่อนค่าทะลุ 37 บาท" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 36.85 - 37.10 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้จะมีการ ประกาศตัวเลขดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และการแถลงข่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 149.72 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 149.64 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0541 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0562 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,469.46 จุด ลดลง 1.97 จุด, -0.13% มูลค่าการซื้อขาย 45,356.23 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 648.47 ล้านบาท (SET+MAI)
- นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง หารือ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมในทุกเรื่อง
รวมทั้งนโยบายที่รัฐบาลกำลังจะดำเนินการเพื่อรับฟังความเห็น ข้อมูล และข้อเสนอของ ธปท. ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง
- นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลกำหนดเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ คือ การทำให้ GDP ของประเทศโตเฉลี่ย 5% ตลอด 4 ปีนี้
และทำให้รายได้ขั้นต่ำให้ถึง 600 บาทในปี 2570 เป็นจุดเริ่มต้นของแผนการมุ่งหน้าสู่การเป็นประเทศรายได้สูง
- ธนาคารโลก (World bank) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะขยายตัวได้ 3.4% เร่งตัวขึ้นจาก 2.6% ในปี 65 แต่
ลดลงจากก่อนหน้านี้ ที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.9% โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการ
บริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ขณะที่คาดว่าการส่งออกจะหดตัว -2.1%
ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 67 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% และ ปี 68 คาดการณ์ที่ 3.3% จากผลของการท่องเที่ยวและภาคเอกชนเติบ
โต โดยในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยนั้น คาดว่าจะกลับมาเทียบเท่ากับระดับก่อนเกิดโควิดได้ภายในสิ้นปี 67
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนก.ย.66 อยู่ที่ 50.4 ปรับเพิ่มขึ้นจาก
เดือนส.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.9 จากด้านการผลิต, คำสั่งซื้อ และผลประกอบการเป็นสำคัญ โดยดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับเพิ่ม
ขึ้นมาใกล้เคียงระดับ 50 อีกครั้ง จากกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยาง และพลาสติก รวมถึงกลุ่มผลิตเหล็ก ที่ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นในเกือบ
ทุกด้าน
- ธนาคารโลก ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและ
แปซิฟิก เนื่องจากเศรษฐกิจจีนและอุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัว ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและการค้าที่ซบเซา
- สำนักงานสถิติยุโรป (Eurostat) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 4.3% ในเดือน
ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 และลดลงจากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวช่วยให้ตลาดมีความ
มั่นใจว่า ECB ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียงพอแล้วที่จะฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ภายในปี 2568 หลังจากเงินเฟ้อพุ่งทะยาน
ขึ้นอย่างสูงตั้งแต่ปี 2564
World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้
ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 2, 2023 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
รัฐบาลไทยแสดงความเชื่อมั่นถึงผลสำเร็จของการออกมาตรการฟรีวีซ่าชั่วคราวให้กับชาวจีน โดยทำเนียบรัฐบาลไทยเปิดเผยผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊ก "ไทยคู่ฟ้า" เมื่อวันอาทิตย์ (1 ต.ค.) ว่า นโยบายให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าชั่วคราวแก่ชาวจีนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้นจะทำให้เงินสะพัดกว่า 1.403 แสนล้านบาท
- เจ้าหน้าที่และสื่อท้องถิ่นของเม็กซิโกเปิดเผยว่า เกิดเหตุหลังคาโบสถ์แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเม็กซิโก ถล่มลงมาในวันอาทิตย์ (1 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังขุดค้นซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่เหลือ
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ ในวันนี้ โดยระบุว่า ในการประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ย.นั้น กรรมการ BOJ มีการหารือกันในหลากหลายปัจจัยที่จะใช้ในการตัดสินใจว่าควรจะยุตินโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy) หรือไม่
-- บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ เปิดเผยสาเหตุบางประการที่อาจทำให้ iPhone รุ่นใหม่ร้อนกว่าปกติ ซึ่งรวมถึงการเกิด บั๊ก (bug) ในซอฟต์แวร์ iOS 17 โดยทางบริษัทจะทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเมื่อมีการอัปเดต iOS ในเร็ว ๆ นี้
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้กดดันให้พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือยูเครนในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย โดยกล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังที่ความขัดแย้งทางการเมืองเกือบจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกปิดดำเนินงาน หรือชัตดาวน์
-- สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ลดลง 4.4% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.466 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 12
-- ฟิลิปปินส์กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภาวะน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มที่อาจเกิด เนื่องจากฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโคอินุ (Koinu) หรือที่ฟิลิปปินส์เรียกว่า เจนนี (Jenny) โดยพายุดังกล่าวทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นในเช้าวันนี้ (2 ต.ค.)
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศในวันนี้ว่า BOJ จะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มอีก โดยมีเป้าหมายที่จะชะลอการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หลังจากอัตราผลตอบพันธบัตรอายุ 10 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
-- นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 34,000 จุดในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
-- บริษัทพัลส์ เอเชีย รีเสิร์ช อิงค์ (Pulse Asia Research Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจความคิดเห็น ได้เปิดเผยผลการสำรวจว่า คะแนนนิยมของนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น
-- ผลสำรวจแสดงให้เห็นในวันนี้ (2 ต.ค.) ว่า กิจกรรมภาคการผลิตของอังกฤษหดตัวอย่างหนักในเดือนก.ย. แม้ว่าจะน้อยกว่าเมื่อเดือนส.ค. โดยเวลานั้นกิจกรรมภาคการผลิตหดตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 3 ปี









