
อุตสาหกรรม Semiconductor กับโอกาสของไทย
ท่ามกลางเศรษฐกิจยุคดิจิทัล อุตสาหกรรมชิปมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นชิ้นส่วนสำคัญ
ชิป คือ แผงวงจรเก็บข้อมูลหน่วยความจำขนาดเล็ก เปรียบได้กับสมองของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่
ชิปผลิตจากซิลิคอนซึ่งเป็นองค์ประกอบทางเคมีทั่วไปที่พบได้ในทราย ซิลิคอนเป็นสารกึ่งตัวนำ หมายความว่ามีความสามารถในการนำไฟฟ้าต่ำกว่าโลหะอย่างทองแดง แต่สูงกว่าฉนวนไฟฟ้าอย่างกระจก
ขั้นตอนการผลิตชิปมีความซับซ้อนสูง กระจุกตัวอยู่ในผู้ผลิตไม่กี่ราย ข้อมูลจากเว็บไซต์ World Population Review ระบุว่า
5 อันดับประเทศที่มีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์มากที่สุดในปี 2023 คือ
จีน , สหรัฐอเมริกา , ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ , และ ใต้หวัน
ท่ามกลางเศรษฐกิจยุคดิจิทัลความต้องการใช้เชมิคอนดักเตอร์ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทุกประเทศให้ความสนใจอุตสาหกรรมชิปมากขึ้น เพราะมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคง ยิ่งเกิดความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐที่ลุกลามจากปัญหาการค้ามาเป็นปัญหาทางด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงความขัดแย้งของยูเครน กับ รัสเซีย ทำให้หลายประเทศพยายามหันมาส่งเสริมวิจัยพัฒนานวัตกรรมและลงทุนการผลิตเชมิคอนดักเตอร์ในประเทศตัวเองมากขึ้น
ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า อุตสาหกรรมผลิตชิปยังไปต่อ แม้ชะลอในระยะสั้น
วัฏจักรของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นั้นถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยสำคัญอย่างความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและสภาวะของเศรษฐกิจในช่วงนั้นจึงทำให้เห็นการเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยจะมีช่วงพักตัวตาม วัฏจักร อย่างเช่นในปัจจุบันวัฏจักรของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในช่วงขาลงจากความต้องการสินค้าที่ลดลงตามการระบาดที่คลี่คลายและอุปสงค์โลกที่ชะลอลงจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงหลังการเร่งผลิตในช่วงโควิด-19 โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรมรถยนต์ยังคงมีอยู่ เนื่องจากชิปสำหรับรถยนต์ที่ผลิตได้น้อยกว่าและโรงงานใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานกว่ายังคงขาดแคลน
ในระยะต่อไป ความต้องการใช้ชิปยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการของอุตสาหกรรมปลายน้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แม้อุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะชะลอตัวตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อและข้อมูลการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มประเทศในเอเชีย แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ภายหลังการทยอยระบายของสินค้าคงคลังและอุปสงค์โลกที่ปรับดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 5G ที่ต้องการใช้ชิปในปริมาณที่มากขึ้น อาทิ data center ยานยนต์ไร้คนขับ smart home/city และระบบแพทย์ทางไกล
การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี ล้วนมีความเชื่อมโยงกับ เชมิคอนดักเตอร์ แม้ประเทศไทยอาจยังไม่มีอุตสาหกรรมหลักใหญ่ๆ และ ยังพึ่งการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่อุตสาหกรรม Semiconductor ถือเป็นอนาคตสำคัญตัวหนึ่งของเศรษฐกิจโลก ถ้าเรายังไม่ให้การสนับสนุนอย่างจริงจังแล้ว เราคงยังห่างไกลกับประเทศอื่นๆ