เปิดโพยหุ้นไหนได้/เสีย เมื่อราคาน้ำมันลง

เปิดโพยหุ้นไหนได้/เสีย เมื่อราคาน้ำมันลง

สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบยังผันผวนต่อเนื่อง จากปัจจัยลบที่กดดันรอบด้าน ทั้ง ซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย มีแผนจะปรับลดราคาน้ำมันให้กับผู้ซื้อในเอเชียในเดือน ต.ค.นี้ ความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง แน่นอนว่าเมื่อราคาน้ำมันปรับลงย่อมมีทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบเชิงลบและเชิงบวก แต่จะมีหุ้นอะไรบ้างนั้น Wealthy Thai รวบรวมมาให้แล้ว!!

หุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ

โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงมากที่สุด คือ PTTEP ซึ่ง บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า น้ำมันที่ลดลงทุกๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจะกระทบกำไรของ PTTEP ราว 900 ล้านบาท และถ้าราคาน้ำมันปรับตัวลงต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อาจเริ่มเห็นการขาดทุน เพราะต้นทุนของ PTTEP อยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล


นอกจากนี้ ยังมีหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจาก stock loss ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 3/63 เช่น TOP, SPRC, BCP, IRPC, SCC, PTTGC รวมถึง PTT ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากบริษัทลูกด้วย

หุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงบวก

สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง มากที่สุด คือ หุ้นในกลุ่มสายการบิน เช่น AAV, BA, NOK เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจ โดยคิดเป็นราว 30-40% จากรายได้รวม รองลงมา คือ EPG ซึ่งได้รับประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบหลักที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน และ TASCO ที่ได้รับผลบวกจากต้นทุนน้ำมันที่ปรับลง ทำให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้น


รวมถึงกลุ่มขนส่งสินค้าทางเรือ เช่น PSL, TTA, RCL PRM ที่ได้รับผลบวกจากต้นทุนน้ำมันที่ปรับลงเช่นเดียวกัน และสุดท้ายกลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM, GPSC, GULF ที่ต้นทุนหลักกว่า 70% มาจากก๊าซธรรมชาติซึ่งเชื่อมโยงกับราคาน้ำมัน โดยโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) จะได้รับประโยชน์ก่อยมีการปรับค่า Ft เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตใหม่

หุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากราคาน้ำมันปรับลงเป็นหุ้นขนาดใหญ่ทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อราคาหุ้นปรับลง ดัชนีมักได้รับผลกระทบตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก หากมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นักลงทุนจึงต้องติดตามข่าวสารอย่างครอบคลุม เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจก่อนเข้าลงทุนทุกครั้ง

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก