เวลาที่ “ราคา” ลงมาถึงจุดที่ “คนส่วนใหญ่” มองว่า “ห้ามลงต่อนะ” เราเรียกจุดนั้นว่า “จุดวัดใจ”
ตลาดหุ้นเป็นการเล่นกับ จิตวิทยาคนหมู่มาก
เป็นการเดาใจคนเป็นล้าน ๆ คนว่า ให้ราคากับหุ้นตัวนี้เท่าไหร่ ราคาที่ลงมาถึงแนวจะหลุดไหมจะเด้งไหม ราคาที่ขึ้นไปถึงแนวนั้นจะผ่านไหม ไปต่อหรือพอแค่นี้
นี่แหละ Market Psychology และถ้าใครเข้าใจมัน ก็จะเป็น “ผู้ชนะ” ในตลาด
Double bottom ตลาดปฏิเสธการลง 2 ครั้งใหญ่ ๆ
เส้นปฏิเสธการลง สำคัญยังไง ตีความยังไง
ลองดูในภาพ ราคาลงมาถึงเส้นสีฟ้า ครั้งที่ 1 ปฏิเสธการลง
ราคาลงมาถึงเส้นสีฟ้า ครั้งที่ 2 ปฏิเสธการลง
“ตลาด” หรือ “คนส่วนใหญ่” ปฏิเสธการลงถึงสองครั้ง ตีความง่าย ๆ ราคานี้ตลาดไม่ให้ลง
พอไม่ให้ลงหมายความว่ายังไงต่อ ก็หมายความว่า ราคานี้ “แข็งแกร่งที่สุด” ห้ามหลุดเด็ดขาด ถ้าหลุดมีแนวโน้มอาจหลุดยาวได้
ทีนี้เราเอาสถิติมาดูกันก่อน เวลาเจอสัญลักษณ์ “Double Bottom” สองครั้งแปลว่า มีโอกาสที่ถึงจุดต่ำสุดแล้ว และมีโอกาสเปลี่ยนเทรนด์กลับเป็นขาขึ้นได้ 78.55%
นั่นหมายความว่ายังไงต่อ หมายความว่ายังมีโอกาสลงได้นะคือ 22% ที่เหลือ ดังนั้นต้อง มีจุด CUT LOSS” และมีวินัยอย่างเด็ดขาด เพราะ CUT LOSS คือวินัย ไม่มีข้อต่อรอง
เห็นแบบนี้ คิดไว้ในใจเสมอ จุดที่ดีที่สุดในการซื้อคือจุด เบรกเส้นกดดาวเทรนด์
แต่ถ้าทับมือไม่ไหว อดใจไม่ไหวกลัวได้ของแพง จุดที่ฐานซื้อเพื่อเล่นเด้ง หรือว่าซื้อรอมันวิ่งไปเบรกได้ แต่ย้ำ “ต้องมีวินัย” ถ้ามันผิดทาง
ดังนั้น เจอ DOUBLE BOTTOM ปฏิเสธการลง 2 ครั้งคิดเป็น STEP เอาไว้ในใจเสมอคือ
STEP 1 เส้นนี้แข็งแกร่งที่สุด ห้ามหลุดเด็ดขาด
STEP 2 ต่อมาจาก STEP แรก ท่องเอาไว้ในใจ ถ้าหลุดต้องมีวินัยนะ ไม่งั้นยาว
STEP 3 มีโอกาสเด้งได้ หรือมีโอกาสกลับเป็นขาขึ้นได้ 78% โดยประมาณ
STEP 4 ไม่ได้มีแต่โอกาสขึ้นอย่างเดียวนะ มีโอกาสลงด้วย ประมาณ 12%
STEP 5 เมื่อมันมีโอกาสลงดังนั้น CUT LOSS คือวินัยไม่มีข้อต่อรอง
STEP 6 จุดซื้อมี 2 จุด ดีที่สุดคือซื้อตอนเบรก แต่ถ้ากลัวซื้อแพง อยากเสี่ยง อยากลอง ก็ซื้อได้ที่ฐานตอนมันผงกหัวขึ้น แต่ย้ำ ถ้าหลุดขึ้นมาห้ามต่อรองเด็ดขาด