==คนเราจะเก็บเงินได้ เมื่ออายุเท่าไหร่? ==
คนเราส่วนใหญ่ เริ่มทำงานอายุ 22 ... แล้วไปเกษียณ 60
ทำงานเกือบ 40 ปี
แต่เชื่อหรือไม่ กว่าที่คนรุ่นก่อน(ส่วนใหญ่)จะเก็บเงินเพื่อชีวิตเกษียณของตัวเองกันได้ คือตอนไหน?
.
.
__________
.
.
10 ปีแรก ... ใช้เวลาไปกับการลองผิดลองถูก เริ่มงานนี้ เปลี่ยนไปงานนั้น ลองทำงานนู้น ทำนู่นทำนี่
เริ่มด้วย รายได้น้อยๆ รายจ่ายดาหน้า ทยอยรับรู้
=========================
อนิจจา...เงินทองได้มา
***จึงเก็บไม่ค่อยอยู่***
=========================
ผู้หญิง หมดไปกับ เสื้อผ้า หน้าผม และ ท่องเที่ยว
ผู้ชาย หมดไปกับ เรื่องดื่มกิน แต่งตัว เที่ยว และ ของเล่นผู้ชาย (มอไซด์ จักรยาน Gadget)
เผลอแพร๊พพเดียว ก็อายุ 30
.
.
__________
.
.
20 ปีต่อมา ... ในวัย 30s ก็ใช้เวลาไปกับการทำงาน ทำธุรกิจ ที่ดูจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น เรียวแรงเหลือเฟือ ร่างกายยังดี
มีรายได้เพิ่มขึ้นมากก็จริง แต่ส่วนใหญ่เก็บกันไม่ค่อยได้หรอก
เพราะรายจ่าย หนักแน่น ดั่งหินผา
-> เป็นวัยที่เริ่มมีแฟนที่คบหาดูใจจริงจัง หวังสร้างครอบครัว ลงหลักปักฐาน
-> เป็นวัยที่เริ่มซื้อรถยนต์ (หนี้ก้อนใหญ่ #1)
-> เป็นวัยที่เริ่มซื้อบ้าน (หนี้ก้อนใหญ่ #2) ผู้ชายสมัยก่อน มาสู่ขอผู้หญิง มักถูกคาดหวังว่า ควรต้องมีบ้าน ไม่รู้สมัยนี้ยังเป็นไหม
-> เป็นวัยที่เริ่มมีลูก หนึ่งคน สองคน สามคน รายจ่ายสารพัด ค่าหมอ ค่าเรียนเสริม ค่าแรกเข้าโรงแรียน ค่าเทอม ฯลฯ
=========================
อนิจจา...เงินทองได้มา
***จึงเก็บไม่ค่อยอยู่***
=========================
จ่ายทุกรายการที่ว่ามา ดูแลได้ตลอดรอดฝั่งใน 20 ปี นี่ก็จัดว่า
"โอ่ โอ นายแน่มาก" แล้ว
เผลอแพร๊พพเดียว ก็อายุ 50
.
.
__________
.
.
10 ปีต่อมา ในวัย 50s ... คนทำงานรับราชการ รัฐวิสาหกิจ จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น อยู่ในช่วง 10 ปีสุดท้ายของชีวิตการทำงาน และช่วงนี้... เงินทองที่ได้มา คือช่วงที่ต้องเก็บออม และมักจะเก็บออมกันได้เร็ว
แต่ ... คนทำงานเอกชน คนทำธุรกิจ คือหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ว่าจะผ่าน 10 ปีนี้ไปได้ หรือโดนให้ออกก่อนกำหนด หรือ ธุรกิจโดนคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของโลก ในยุค disruptive economy ... คนกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องสู้เต็มที่ในช่วง 10 ปีสุดท้าย (หากยังเก็บออมไม่ได้มาก่อน)
ข้อดีของวัยนี้คือ ลูกเริ่มโตแล้ว ค่าใช้จ่ายลดลง ค่าผ่อนทยอยลดลง ได้เป็นไทแก่ตัว
หน้าที่สำคัญในวัย 50s คือการออมเต็มที่ เพื่อชีวิตเกษียณของตัวเอง
มีคำกล่าวว่า ทำงาน 10 ปีสุดท้าย จงเก็บออมให้หนัก เพื่อใช้ชีวิตตอนไม่ได้ทำงานอีก 10 ปี
นั่นแปลว่า ประมาณการอายุขัยไว้ ที่อายุ 70 ซึ่งจะตามนั้นหรือไม่...ไม่รู้
.
.
__________
.
.
บางคนเรียกสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดว่า "สนามแข่งหนู" (rat race)
บางคนก็เรียกมันว่า "วงเวียนชีวิต"
มันคือเส้นทางของผู้คน ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน อดทน เก็บออม เพื่อความอยู่รอด หรือ ความมั่งคั่ง
การเก็บเงินเพื่อเกษียณ 10 ปีสุดท้ายในช่วงอายุ 50-60 เป็นอะไรที่เสี่ยง มีความไม่แน่นอนสูงมาก
ในยุคสมัยนี้ จึงสนับสนุนให้คนทำงานทุกคนเริ่มออมเงินบางส่วน เพื่อเตรียมเกษียณ ตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน ...
ใช่ครับ ฟังไม่ผิด
ตำราการเงินแนะนำให้เริ่มเก็บเงินเตรียมเกษียณ "ทันที" ที่เรามีรายรับ (ตั้งแต่อายุ 22) เมื่อเราเริ่มเก็บ ก็คือเราเก็บเงินได้แล้ว
โดยให้คิดว่า ขนาดภาษี เรายังโดนหักไปทันที ตั้งแต่เริ่มทำงาน แต่ชีวิตเรา ก็ไม่เห็นจะเป็นไร
แล้วทำไม ไม่หักให้ตัวเอง ไปสู่การออม และลงทุนในรูปแบบต่างๆบ้างเล่า เราเรียกสิ่งนี้ว่า
"การจ่ายให้ตัวเองก่อน"
จ่ายด้วยวินัยสูงยิ่ง จ่ายไปเรื่อยๆ จ่ายให้ตัวเอง ... กระทั่งเกิดความมั่นคงในชีวิต
การออมภาคบังคับจึงสำคัญเช่นกัน
ประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ... หรือ กองทุนอะไรที่เราตั้งให้มันหักเงินเราทันทีในวันที่รับเงินมาเลย
.
.
__________
.
.
การออมแบบนี้ บางประเทศจริงจังมาก ถึงกับกำหนดไว้เป็นกฏหมายบังคับทุกคนที่มีรายได้ ต้องเข้าร่วม เพื่อนบ้านเราเอง "มาเลเซีย" มีกฏหมาย EPF Employees Provident Fund Act 1991 (Act 452)http://www.kwsp.gov.my/port…/…/about-epf/overview-of-the-epf
ที่บังคับให้ ผู้มีรายได้ ต้องออม 11% ของรายได้ โดยนายจ้าง ต้องสมทบ 12-13%
นั่นแปลว่าคนทำงานมาเลเซีย จะมีอัตราการออม 23-24% ต่อเดือน ต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งถ้าเทียบกับไทยเรา การออมระดับนี้ คือโคตรยอดปิรามิด
เราอยู่อาศัยในประเทศที่ไม่มี ระบบสวัสดิการดูแลอะไรมาก
การพึ่งพาตนเอง ด้วยการออมอย่างมีระบบ ทำต่อเนื่องยาวนาน และมีส่วนของหุ้น กองทุน ตามสัดส่วนที่เหมาะแก่อายุเสมอ จึงเป็นทางออกระยะยาวของผู้คนยุคนี้
cr. เพจ นิ้วโป้ง Fundamental VI
_____________________________