สนามของนักสู้ที่ชื่อ...ตลาดหุ้น
การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นไม่ได้ดูสวยหรู การแสวงหาผลกำไรทำกันได้อย่างง่ายดาย แต่กลับเต็มไปด้วยหนทางอุปสรรค บททดสอบให้กับทุกการลงทุนของเราบนเส้นทางสายนี้ ฉะนั้นนักลงทุนที่จะก้าวเข้าลงสู่สนามสู้หุ้นจึงต้องใช้ความระมัดระวังที่จะก้าวเดินเพื่อไขว้คว้าแสวงหาความสำเร็จ ความประมาท ความโลภ ความไม่รู้ ความไม่เข้าใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะนำพาสู่ความล้มเหลวต่อการลงทุนของเราได้
ดังนั้น การเข้าสู่สนามหุ้นที่มุ่งหวังสู่ความสำเร็จที่แท้จริงนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องมีความพร้อม ต้องมีเกราะป้องกันความเสี่ยง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้ ความเข้าใจ การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรอง การประเมินทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้นได้อย่างแม่นยำ ที่ล้วนมีองค์ประกอบสำคัญในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน มีเหตุผลรองรับได้ทั้งนั้น แนวโน้มของราคาหุ้นจะเป็นเช่นใดอมีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลกระทบและมีอิทธิพลต่อราคาหุ้นในด้านบวกหรือลบ
สิ่งสำคัญอันดับแรกของการลงทุนที่ดี จะต้องให้เวลากับการลงทุน ให้เวลาในการเรียนรู้ ให้เวลาที่จะติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่จะเป็นปัจจัยชี้นำตัวหุ้น ให้เวลาคิดพิจารณา ไตร่ตรอง และรู้ได้ถึงความเป็นไปในอนาคต ผลที่จะเกิดกับตัวหุ้น กับภาพรวมของตลาดที่จะเกิดขึ้น และสามารถประเมินรู้ได้ถึงราคาเป้าหมายและแนวโน้มของหุ้นตัวที่เป็นเป้าหมาย ในอนาคตว่าราคาจะเป็นเช่นไร โดยดูได้จากเรื่องของข้อมูลพื้นฐานการเติบโตของบริษัท แผนนโยบาย ความสามารถในการดำเนินงานที่จะสร้างรายได้ในอนาคตของบริษัท ทั้งจากข้อมูลข่าวสารโดยทั่วไป โดยต้องมีแหล่งที่มาชัดเจนไม่ใช่ข่าวลือ ข่าวสร้าง ทั้งจากการเข้าไปเยี่ยมชมกิจการ จากคำบอกเล่าของผู้บริหารที่มีความเป็นมืออาชีพมีธรรมมาภิบาล จากนักวิเคราะห์สำนักต่างๆที่มีความน่าเชื่อถือ ทุกปัจจัยที่เป็นข้อมูลสำหรับการประเมินวิเคราะห์หาราคาหุ้นเป้าหมายในอนาคต
สำหรับการพิจารณาที่สามารถประเมินรู้ได้ ก็ไม่มีอะไรที่สลับซับซ้อนมากนัก นักลงทุนทั่วไปก็ทำได้หากมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อเดินสู่ความสำเร็จที่ตนเองต้องการกับการลงทุน จากข้อมูลข่าวสารต่างๆ ปัจจัยกระทบต่างๆที่เราประเมินได้ รวมถึงจากบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ที่มี เราก็แค่นำปัจจัยเหล่านั้นมาคิด คำนวณหามูลค่า แนวโน้มทิศทางและคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทนั้น จะมีผลประกอบการ มียอดขาย จะมีกำไรสุทธิเท่าไหร่
อย่างเช่น การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานบริษัทที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะกำไรของบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโต ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี กระแสเงินสดของบริษัทก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะกระแสเงินสดที่จะนำไปลงทุนต่อในอนาคตที่มากพอ และยังเหลือพอไว้สำหรับปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ นอกจากนี้ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ แผนงานโครงการในอนาคต ธรรมาภิบาลของผู้บริหาร ก็สำคัญเช่นกัน ก็จะทำให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจที่จะลงทุนได้ในเบื้องต้น บนความเสี่ยงที่ต่ำ และผลตอบแทนที่จะตามมาได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอีกมากมายหลายปัจจัยที่อาจจะมีเข้ามา ซึ่งนักลงทุนจำต้องเฝ้าติดตาม คิดพิจารณาประเมินหาให้ได้บนความน่าจะเป็นมากที่สุด การลงทุนในหุ้นนั้นต้องให้เวลา อย่าเอาแต่แค่ถามนักลงทุนคนอื่นว่าเล่นตัวไหนเข้าตัวไหนดี เชื่อตามนักวิเคราะห์ เชื่อตามมาร์เก็ตติ้ง เชื่อตามที่เขาใครก็ไม่รู้บอกมา คาดหวังในข้อมูลของคนอื่นที่จะอินไซด์ นักลงทุนที่ไม่รู้จักไตร่ตรองคิดเอง ตัดสินใจเองมักลงทุนผิดพลาดอยู่เสมอ นักลงทุนประเภทนี้มักจะเล่นหุ้นบนการจินตนาการเพ้อฝัน เล่นตามแห่เก็งกำไรระยะสั้น ขาดความรู้จริง ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน สุดท้ายก็จะพบกับความเสียหายกลายเป็นเหยื่อของตลาดหุ้น
เรื่องราวการลงทุนในตลาดหุ้น นั้นเต็มไปด้วยเรื่องของผลประโยชน์เม็ดเงินจำนวนมหาศาล ที่นักลงทุนต่างต้องการตักตวงเก็บเกี่ยวมาเป็นของตนกันทั้งนั้น เรื่องของตลาดหุ้นจึงเปรียบเสมือนเป็นสนามต่อสู้ที่ต้องมีทั้งผู้ที่ชนะและผู้ที่แพ้ ผู้ที่ชนะและคุมเกมส์ได้เท่านั้นที่จะสามารถก้าวสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยและได้เปรียบในสนามการสู้หุ้นเสมอ สรุปแล้วไม่มีใครที่จะปกป้องคุ้มครองดูแลไม่ให้การลงทุนของเรามีความเสี่ยงได้ นอกจากตัวของเราเอง เพียงแค่ให้เวลากับการลงทุน เรียนรู้ คิดไตร่ตรอง ให้รู้แจ้งเห็นจริงบนเหตุผลรองรับได้ การลงทุนนั้นก็จะเดินก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างที่คาดหวังไว้ครับ