จับตา "ราคาเหล็ก" ร่วงมากกว่า 7% แตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 4 ปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ว่า ราคาเหล็กร่วงลงมากกว่า 7% ในวันจันทร์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2562 โดยวัตถุดิบสำหรับเหล็กกำลังเข้าสู่เดือนที่แย่ที่สุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนแสดงสัญญาณการฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย และผู้ผลิตเหล็กต้องเผชิญกับการขาดทุนที่มากขึ้น มาตรวัด กิจกรรมโรงงานอย่างเป็นทางการของจีนในเดือนตุลาคมพลาดการประมาณการและมีแนวโน้มหดตัว
โดยวิกฤติอสังหาริมทรัพย์และมาตรการ Covid Zero ในประเทศจีนได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการก่อสร้าง และความต้องการเหล็กไม่ได้เป็นไปแบบปกติ คาดว่าจะเป็นฤดูกาลที่คึกคัก อนาคตยังได้รับปัจจัยลบจากความเชื่อมั่นในตลาดจีนภายหลังการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์
โดยผู้ผลิตเหล็กในจีนกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยส่วนต่างกำไรถูกกดดันจากราคาผลิตภัณฑ์หลัก เช่น เหล็กเส้นและเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน และมีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันต่อราคาวัตถุดิบเนื่องจากโรงงานพยายามสกัดกั้นการขาดทุน และดัชนี PMI เหล็กของจีนในเดือนตุลาคมบ่งชี้ว่าผลผลิตที่หดตัวลงอย่างมาก
ถึงกระนั้นนักวิเคราะห์ของ Citigroup Inc. กล่าวในหมายเหตุว่าความต้องการการก่อสร้างอาจถึงจุดต่ำสุด และภาคส่วนเหล็กจะได้รับประโยชน์จากการที่กิจกรรมการก่อสร้างกลับมาเริ่มต้นใหม่ สัญญาซื้อขายแร่เหล็กลดลงมากกว่าครึ่งจากจุดสูงสุดของปีนี้
ทั้งนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าร่วงลงมากถึง 7.1% สู่ 75 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่มกราคม 2562 ก่อนที่ paring จะตกลงมาที่ 79.50 ดอลลาร์ต่อตัน (เวลา 11.08 น. ตามเวลาท้องถิ่น) ฟิวเจอร์สในต้าเหลียนลดลง 1.5% ในขณะที่เหล็กเส้นในเซี่ยงไฮ้ทรุดตัวลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี