โดย Vira
เผยแพร่ : 
63 viewsนักลงทุน ควรมี แนวทางการลงทุนหรือไม่?
สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่โดยเฉพาะที่เพิ่งลงทุนไม่ถึง 1 ปี ควรรู้จักตัวเองก่อนรู้จักหุ้นว่าเราเหมาะกับการลงทุนแนวไหน เพราะเราต้องมีหลักยึดในการลงทุน ไม่ใช่เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ
การผสมประยุกต์หลายๆแนวเข้าด้วยกัน ทั้งพื้นฐาน เทคนิค เดย์เทรด หรือใดๆก็ตาม โดยที่ไม่มีความเข้าใจ เป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับมือใหม่อย่างมาก หลายๆครั้งในเหตุการณ์เดียวกัน แต่คนละแนวทาง ย่อมมีการตัดสินใจที่ต่างกันจนทำให้สับสน ดังนั้น เมื่อลงทุนไปในระยะเวลาหนึ่งนักลงทุนควรจะเลือกแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองได้
สำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนยังไม่จำเป็นต้องเลือกแนวทางตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาลงทุน ลองศึกษา ปฏิบัติจริงด้วยเงินไม่มากสักระยะหนึ่ง และถือเป็นการเทสความรู้และวิธีการของเราไปด้วย
ประเภทนักลงทุนแบ่งเป็น 3 แบบใหญ่ๆ
นักลงทุนเกาะกระแสฟันด์โฟลว์ คือ ลงทุนตามทิศทางเงินไหลเข้า โดยสังเกตจากยอด ซื้อ ขาย ของนักลงทุนต่างชาติ เช่น กองทุนเฮดจ์ฟัน นักลงทุนสถาบันต่างชาติ เนื่องจาก ตลาดหุ้นไทย ถือว่า มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อนักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในหุ้นไทยจึงต้องเข้าซื้อเฉพาะหุ้นตัวใหญ่ๆ วิธีการเล่นหุ้นตามฟันด์โฟลวจึงเป็นการดูว่าเงินฟันด์โฟลวเข้าตลาดหุ้นไทยแล้วหรือยัง
นักลงทุนแนวเทคนิค แนวนี้จะสนใจกราฟราคาหุ้น พร้อมทั้งดูเครื่องมือต่างๆเพื่อใช้ในการทำนายทิศทางราคาโดยอาศัยข้อมูลราคาหุ้น ปริมาณการซื้อขาย อินดิเคเตอร์ อื่นๆ โดยเชื่อว่า ราคาหุ้นขึ้นลงเป็นเทรนด์ ประวัติศาสตร์จะเกิดซ้ำเสมอ ราคาสะท้อนความจริงทั้งหมด นักลงทุนแนวเทคนิคจะมีเรื่องคุยทุกวัน เพราะราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การลงทุนจะเป็นไปตามสัญญาณทางเทคนิค กำหนดจุดเข้าออกอย่างมีวินัย
นักลงทุนแนวพื้นฐาน แนวนี้จะเน้นการวิเคราะห์กิจการทั้งในเชิงปริมาณ เช่น งบการเงิน อัตราส่วนทางการเงิน และ เชิงคุณภาพ เช่น การดูเทรนด์ต่างๆ เช่น อินเตอร์เนต การขยายตัวของเมือง การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ วิเคราะห์การเติบโต
โดยนักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน มีหลักการว่า การซื้อหุ้นคือการซื้อกิจการ ราคาหุ้นจะสะท้อนราคาหุ้นที่แท้จริงของกิจการในวันหนึ่ง และตัดสินใจซื้อหุ้นเมื่อมี margin of safety นักลงทุนแนวนี้จะจะถือหุ้นไว้นานจนกว่าธุรกิจนั้นจะอิ่มตัว และไม่เติบโตอีกต่อไป
- Vira -
อ้างอิง : หนังสือติวหุ้นรวยด้วยVI
