IFEC !!!

  ส่องงบ IFEC คาดพลิกบวกแรงใน Q2/59 จากกำไรพิเศษทางบัญชี และกำไรปรับหนี้โรงแรมดาราเทวีรวมกว่าพันล้านบาท ขณะที่พลังงานทดแทนยังมีกำไรดีตามปกติ ลุ้น Q3/59 ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์--พลังงานลมในและต่างประเทศ ด้านนักวิเคราะห์เชื่อครึ่งปีหลังเป็นขาขึ้น ชี้พื้นฐานดีน่าซื้อให้เป้าหมาย 10.40-13.70 บาท แต่ในมุมกลยุทธ์ลงทุนยังน่ากลัว จากภาพหลอนยอดดอยสูงลิบเกือบ 18 บาท
  ราคาหุ้นบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เคลื่อนไหวทรงตัวในระดับราว 6-7 บาทนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่เช้าวันนี้เปิดที่ 6.15 บาท และปิดครึ่งวันเช้าที่ 6.10 บาท ลดลง 0.05 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 24.5 ล้านบาท
  IFEC ปัจจุบันประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทย่อย ทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ธุรกิจบริหารจัดการขยะ และธุรกิจโรงแรม จากที่อดีตก่อนปี 56 ทำธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสารซึ่งสุดท้ายก็มีการปรับโครงสร้างขายกิจการออกไป
  ในช่วงปีแรกๆ ที่หันเหสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มตัว ผลการดำเนินงานของ IFEC เติบโตขึ้นจากปี 56 ที่มีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท เพิ่มเป็น 72 ล้านบาทในปี 57 ส่วนปี 58 กำไรกระโดดไปถึง 332 ล้านบาท
  แต่การเติบโตของกำไร ก็มาพร้อมๆ กับการทยอยเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่อง จากช่วงกลางปี 56 มีจำนวนหุ้นชำระแล้วรวมเพียง 400 กว่าล้านหุ้น กลายมาเป็น 1.98 พันล้านหุ้นในปี 59 นี้ มากขึ้นเกือบ 5 เท่าตัว นั่นจึงทำให้กำไรที่ดีมากไม่สามารถดันราคาหุ้นที่แตะระดับสุดสูงสุดเกือบ 18 บาทในเดือน ก.พ.ปี 58 ให้ปรับขึ้นได้ต่อในระยะหลัง
  โดยในช่วง 6 เดือนแรกปี 59 นี้ ราคาตกต่ำมาอยู่ที่ประมาณ 6-7 บาทเท่านั้น อีกทั้งมีปัจจัยกดดันจากการที่งบไตรมาส 1/59 กลับมาพลิกขาดทุนขาดทุนถึง 143 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไร 16 ล้านบาท ยิ่งทำให้ดูราวกับว่าหุ้นแทบได้หมดความน่าสนใจลงไปแล้วทั้งๆ ที่มีการขยายการลงทุนต่อเนื่อง 
  อย่างไรก็ตาม ในแง่ธุรกิจหลักของ IFEC ถือว่าทำกำไรได้อยู่ แต่ตัวเลขที่ขาดทุนสาเหตุมาจากผลการปรับปรุงรายการตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ดังนั้นจึงเป็นไปได้สูงว่าไตรมาส 2/59 งบของ IFEC จะกลับมากำไรเป็นปกติได้ อีกทั้งยังมีลุ้นบันทึกกลับกำไรพิเศษบางส่วน รวมไปถึงกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ของโรงแรมดาราเทวี ที่รวมกันแล้วอาจมากกว่าพันล้านบาท
  นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ IFEC เปิดเผยว่า หากบริษัทโรงแรมดาราเทวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ IFEC ถือหุ้น 100% ออกจากการฟื้นฟูกิจการได้แล้ว จะให้ผลตอบแทนกลับสู่ผู้ถือหุ้นทันที โดยจะสามารถบันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งนี้ได้หลายร้อยล้านบาทในไตรมาส 2/59
  หลังจากนั้นในไตรมาส 3/59 จะดำเนินการขายที่ดินจำนวน 40 ไร่ มูลค่า 625 ล้านบาท ให้กับบริษัทร่วมทุนและจะมีการขายเรสซิเดนซ์-วิลล่าหรู จำนวน 14 หลังในโครงการดาราเทวีอีกมูลค่า 760 ล้านบาท รวมมูลค่าที่บริษัทจะได้จากการขายสินทรัพย์บางส่วนของดาราเทวีจำนวน 1,385 ล้านบาท
  นอกจากนี้ยังจะมีการขายหุ้นส่วนหนึ่งของโรงแรมดาราเทวีราว 5-10% รวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเตรียมฐานทุนที่จะกลับเข้ามายัง IFEC เพื่อที่จะเดินหน้ารุกโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก
  โดยในช่วงไตรมาส 3/59 นี้บริษัทจะเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งในและต่างประเทศจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นโครงการที่สามารถสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ และเป็นโครงการเพิ่มเติมจากแผนที่วางไว้เดิม
  ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ล้วนมีมุมมองที่ดีต่อ IFEC ต่างเชื่อว่าครึ่งปีหลังผลงานจะพลิกฟื้นได้จริง มีโครงกลงทุนใหม่ๆ ที่จะทำให้ผลงานเติบโตก้าวกระโดดได้อีกครั้ง และปี 59 นี้จะกลับมามีกำไรสุทธิได้แน่นอน ให้ราคาเหมาะสม 10.40-13.70 บาท
  บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า IFEC กำไรจะเริ่มเป็นขาขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป ซึ่งในช่วงไตรมาส 2/59 ถึงไตรมาส 3/59 จะบันทึกกำไรพิเศษรวมมากกว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่ธุรกิจก็หลักก็จะมีกำไรจากการกำลังการผลิตที่ดำเนินงานเชิงพาณิชย์ หรือ COD โรงไฟฟ้าพลังลม 14MW และโซลาร์สหกรณ์ 6MW ในครึ่งปีหลัง อีกทั้งมีการรับรู้รายได้การเปลี่ยนสัญญาโรงไฟฟ้าชีวมวล 6.8MW ในระบบ FiT
  ทั้งนี้คาดว่าไตรมาส 3/59 จะสามารถปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศมากกว่า 50 MW ที่ COD แล้วเพื่อชดเชยโครงการที่ล่าช้า ซึ่งไม่อยู่ในประมาณการ ให้ราคาเป้าหมาย 13.40 บาท
  บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ในส่วนของโรงแรมดาราเทวีคาดจะมีผลกำไรสุทธิราว 38.8 ล้านบาท ณ สิ้นปี 59 ขณะที่ในงบไตรมาส 2/59 จะมีบันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 740 ล้านบาท
  สำหรับธุรกิจพลังงานทดแทนจะยังเป็นสัดส่วนรายได้หลักถึงร้อยละ 60 และมีอนาคตจากการเปิดโควตาพลังงานขยะรอบแรก 50 MW และลมในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ IFEC ถนัด และมีโอกาสสูงที่จะได้โควตาเพิ่มเติม จึงแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 10.40 บาท มาจากโรงไฟฟ้า 9 บาท และ ธุรกิจโรงแรม 1.40 บาท
  บล.บัวหลวง ประเมินว่า โครงการพลังงานทดแทนจะเติบโตราว 40% จากโครงการในมือที่ได้รับการยืนยัน ได้รับ PPA แล้ว จำนวน 141 MW แบ่งเป็น ขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 40 MW และอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการอีก 101 MW ซึ่งจะทยอยขายไฟฟ้าในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
  ทั้งนี้ IFEC ยังคงแผนการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศ และ ขยายไปต่างประเทศ ร่วมกับพันธมิตร GOLD WIND โดยมีโครงการในมือที่มีความพร้อมแล้ว และคาดว่าจะได้รับการยืนยันเพิ่มเติม 3 โครงการ ได้แก่โครงการพลังงานลมในเวียดนาม เฟส 2-3 อีก 92 MW + 90 MW โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งเกาหลีใต้ 2 เฟส 100 MW + 100 MW และโครงการพลังงานลมที่ประเทศออสเตรเลีย 2 เฟส 100 MW + 100 MW ซึ่งคาดจะได้เห็นการสรุปการลงทุนอย่างน้อย 1 โครงการภายในไตรมาส 3 นี้ แนะนำซื้อ เป้าหมายพื้นฐาน 13.70 บาท
  บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปัจุบัน IFEC ได้ COD โรงไฟฟ้าไปแล้วรวมประมาณ 40 MW โดยสิ้นปี 59 น่าจะ COD ได้อีกประมาณ 13.7 MW จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม ส่วนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากอยู่ระหว่างทำข้อตกลง Non-discloser agreement
  "ปีนี้มีโอกาสที่งบรวมจะมีกำไรสุทธิได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้ามีกำไรอยู่แล้ว และยังจะได้บันทึกกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้ของโรงแรมดาราเทวีอีก แต่ในเชิงกลยุทธ์ยังมีข้อระวังในการลงทุนคือ IFEC เป็นหุ้นที่มี Free float สูง และมีคนติดราคาสูงเยอะ" นักวิเคราะห์ กล่าว
  คำแนะนำหลัก แนะซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.10 บาท
  บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) มองในเชิงกราฟเทคนิคหุ้นว่า ราคาหุ้น IFEC จะเกิดสัญญาณซื้อก็ต่อเมื่อราคาทะลุผ่านระดับ 6.40 บาทสำเร็จ เพื่อสร้างเป็นฐานแนวรับ ซึ่งจะมีแนวต้านที่ 7-7.30 บาท

  หากประเมินราคาเหมาะสมของ IFEC ที่ 10.40-13.70 บาท เรียกได้ว่ายังมีอัพไซด์อยู่พอสมควรจากราคากระดานที่เคลื่อนไหวราว 6-7 บาทมานาน แต่เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีฟรีโฟลทสูงมากถึง 88.16% มีนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นรวม 27,861 ราย และเคยถูกลากขึ้นไปยอดดอยสูงเกือบ 18 บาท ทำให้การเก็งกำไรหุ้นตัวนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง