อย่าลงทุนเมื่อฝุ่นเข้าตา
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก PM2.5 ที่ทำให้คนเราต้องใส่หน้ากากเข้าหากันทุกวันนี้ เป็นปัญหาที่ทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันป้องกันแก้ไข อย่างน้อยๆ ก็เริ่มจากตัวเองก่อน โดยสำรวจตัวเองว่า การดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน มีอะไรที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองหรือไม่ และเราสามารถลดมันได้ไหม
แต่สิ่งที่ผมกำลังจะเขียนถึงนี้ เป็นฝุ่นที่ขนาดใหญ่กว่า PM2.5 เพราะเมื่อเข้าตาแล้วจะรู้สึกระคายเคืองทันที แบบที่ว่าไม่สามารถจะลืมตาได้เป็นปกติ ต้องชำระล้างด้วยน้ำสะอาด น้ำยาล้างตา หรือถ้าไม่มีทั้งสองน้ำที่ว่า ก็ใช้น้ำตาตัวเองนั่นแหละชะล้างฝุ่นออกมา
หากเปรียบกับการ ลงทุน การที่ฝุ่นเข้าตาก็เปรียบเสมือนนักลงทุนกำลังเผชิญปัญหาบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถมองเห็นลู่ทางลงทุนได้อย่างกระจ่างชัดเท่าที่ควร ซึ่งมักจะมาจากปัจจัยภายนอกและเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก
ยกตัวอย่างการลงทุนในตลาดทุนหรือตลาดหุ้น ในบางช่วงบางเวลาจะเกิดภาวะที่เรียกว่า “ฝุ่นตลบ” ซึ่งทำให้เราไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลังฝุ่นที่ฟุ้งตลบอบอวลอยู่นั้น
การลงทุนในภาวะ “ฝุ่นตลบ” จึงมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในภาวะปกติทั่วไปที่มองเห็นทุกอย่างกระจ่างชัด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภายนอกจะเกิดภาวะฝุ่นตลบ แต่หากตาเรายังแจ่มใส ไม่มีฝุ่นใดเข้าตา เราก็จะสามารถเพ่งมองความเคลื่อนไหวที่รางเลือนภายหลังม่านฝุ่นนั้นได้ และยิ่งหากเรามีประสบการณ์เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กับที่เคยทำให้ฝุ่นตลบแบบนั้นมาแล้ว ก็จะทำให้คาดการณ์ได้ว่าภายหลังฝุ่นตลบได้คลี่คลายลง จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น การลงทุนในภาวะเช่นนี้ก็อาจสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าภาวะปกติได้เช่นกัน
เข้าตำรา “ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง”
แต่หากเราอยู่ในภาวะ “ฝุ่นเข้าตา” จนลืมตาไม่ขึ้น แบบนี้ผมไม่แนะนำให้ลงทุนครับ มันเสี่ยงเกินไป เพราะนอกจากเราจะไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อย่างชัดเจนแล้ว อาการระคายเคืองที่ตายังทำให้เราเสียสมาธิที่จะโฟกัสการลงทุนที่ต้องการอีกด้วย เมื่อไม่มีสมาธิ ไม่มีสติ ก็ย่อมไม่มีปัญญาเพียงพอในการวิเคราะห์การลงทุนได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
แล้วภาวะแบบไหนล่ะที่เรียกว่า “ฝุ่นตลบ” หรือเรียกว่า “ฝุ่นเข้าตา” ผมจะลองหยิบยกเหตุการณ์ที่เคยผ่านๆ มา เพื่อให้คุณผู้อ่านเห็นภาพชัดขึ้น
เอาเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ก็ได้ ช่วงที่นายพลกาเซม โซไลมานี แห่งอิหร่านถูกสังหารโดยกองทัพสหรัฐ และรัฐบาลอิหร่านประกาศตอบโต้เพื่อที่จะ “ล้างแค้นอย่างสาสม” ช่วงนั้นถือว่าเริ่มเห็นฝุ่นควันปกคลุมทั่วไปแล้ว ต่อมาอิหร่านก็ทำจริงโดยยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพของสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ในอิรัก ตอนนั้นแหละครับที่เรียกว่า “ฝุ่นตลบ”
และในภาวะเช่นนั้น นักลงทุนบางคนก็ออกแสวงหาข้อมูลข่าวสารจากผู้รู้ต่างๆ จากสำนักข่าวต่างๆ ว่าเหตุการณ์จะบานปลายกลายเป็นสงครามหรือไม่อย่างไร ซึ่งหลายคนก็พบความหวังอยู่ลางๆ ว่า ไม่น่าจะเกิดสงครามที่ลุกลามกระทบมาถึงเศรษฐกิจและตลาดทุนของโลก คนกลุ่มนี้แหละครับที่ “ฝุ่นไม่เข้าตา”
ในขณะที่นักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งมัวแต่แตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ไม่มีสติในการแสวงหาความจริงใดๆ ทั้งนั้น วิตกกังวลไปสารพัด ว่าจะต้องเกิดสงครามลุกลามใหญ่โต ราคาน้ำมันจะต้องทะยานเป็นน้ำพุ ราคาทองคำจะต้องวิ่งขึ้นแบบติดจรวด หุ้นจะต้องตกระเนระนาด คนกลุ่มนี้แหละครับที่เรียกว่า “ฝุ่นเข้าตา”
หากเกิดเหตุการณ์ “ฝุ่นตลบ” ในครั้งหน้า ลองพิจารณาดูนะครับว่าฝุ่นเข้าตาเราหรือไม่ ถ้าตาเรายังลืมได้สดใสชัดเจน ก็สามารถที่จะจัดสรรเงินบางส่วนที่จะเสี่ยง เพราะอาจได้ผลตอบแทนที่สูง
แต่ถ้าฝุ่นเข้าตา ไปหาทางล้างฝุ่นออกก่อนเถอะครับ อย่าเสี่ยง ลงทุน เลย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก