Good Morning News โดยกองทุนบัวหลวง, มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
21 ธันวาคม 2559
...................................
ฐาปณัฐ สุภาโชค, Fund Management
Guru Quotes
“ธุรกิจที่ทำแต่เงิน มิได้สร้างคุณค่าอื่นใดเลย ถือเป็นธุรกิจที่แย่มาก”
Henry Ford
General News
• สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งโคโลญในเยอรมนี (IW Cologne) ชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐฯในปีหน้า จะเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน เพราะจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งช่วยหนุนการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และอาจผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนสูงขึ้น ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) อีกด้วย
• ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นเป็น 111.0 จาก 110.4 ในเดือนพฤศจิกายน สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจว่าเป็นขาขึ้น ขณะที่ราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤศจิกายนปรับขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
• ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อ 6 ธันวาคม แสดงถึงสาเหตุที่คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ว่าเกิดจากตลาดแรงงานอันอ่อนแอ และยังไร้ทิศทางที่แน่นอน ประกอบกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาฟื้นตัว โดยหวังว่าการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำสุดเช่นนี้ จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโต และผลักดันเงินเฟ้อให้เข้าสู่เป้าหมายได้
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี เนื่องจากการส่งออก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เริ่มขยายตัวหลังจากเงินเยนอ่อนค่าลง รวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯที่กำลังฟื้นตัว ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศอื่นๆ ได้แก่ การอุปโภคบริโภค การจ้างงาน และรายได้ ก็ดีขึ้นเช่นกัน พร้อมกับย้ำว่า การผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่ในปัจจุบัน เป็นนโยบายที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ เพื่อเร่งให้เงินเฟ้อบรรลุเป้าหมาย 2%
• สถาบันสังคมศาสตร์ของจีนคาดว่า เศรษฐกิจจีนในปี 2559 จะขยายตัว 6.7% แต่ในปีหน้าจะชะลอตัวเหลือ 6.5% เพราะคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะอ่อนแรงลง เช่นเดียวกับยอดค้าปลีกและอุปสงค์จากต่างประเทศ ทั้งนี้ระหว่างรายงานแผนการเศรษฐกิจเมื่อเดือนมีนาคม ทางการจีนระบุว่า จะผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัว 6.5% เป็นอย่างต่ำ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2560-2564)
• ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เผยว่าราคาผู้ผลิต (PPI) ของประเทศในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.4% เป็น 99.00 เนื่องจากราคาสินค้าอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์น้ำมันปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทั้งนี้ PPI ของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และยังเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ซึ่งบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
• ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจมาเลเซียในปีนี้และปีหน้าจะขยายตัว 4.2% และ 4.3% ตามลำดับ ส่วนปี 2561 ก็จะเติบโต 4.5% เนื่องจากแรงหนุนของการบริโภคภาคเอกชน อัตราว่างงานต่ำ มาตรการกระตุ้นรายได้ประชาชน และการผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม มาเลเซียยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลใหม่ในสหรัฐฯ ราคาพลังงาน กระแสเงินทุน และอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะกระทบต่อตลาดทุนและค่าเงินริงกิต
• นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ประเมินว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้จ่าย และการลงทุนของภาครัฐ จะช่วยเร่งให้เศรษฐกิจไทยในปี 2560 ขยายตัวเพิ่มอีก 0.5% จากที่คาดการณ์ไว้เดิม 3.5-4.0% และมองว่าการส่งออกจะฟื้นตัวกลับมาเติบโตระหว่าง 0-2% ทั้งนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว 3.3-3.5% ส่วนการส่งออกหดตัว -1-0%
Equity Market
• SET Index (20 ธ.ค.) ปิดที่ 1,511.65 จุด ลดลง 10.75 จุด หรือ -0.71% มูลค่าซื้อขายรวม 41,238.21 ล้านบาท ดัชนีตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก สืบเนื่องจากปัญหาการเมืองในยุโรปเป็นหลัก ทั้งเหตุความรุนแรงในตุรกี เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้น ทั้งนี้ยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งสุดท้ายของปี 2559 ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ไตรมาส 3/2559 ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันที่ 22 ธันวาคม
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน 220.94 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -154.95 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ 88.10 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป -154.10 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.05% ถึง +0.02% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 93,103.75 ล้านบาท ในวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 50 ปี มูลค่า 14,000 ล้านบาท