ห้องเม่าปีกเหล็ก

SCC ทุ่มงบ ลงทุนในธุรกิจใหม่

โดย สีน้ำ
เผยแพร่ :
151 views

SCC ทุ่มงบ 1 แสนลบ. ลงทุนใน 6 กลุ่มธุรกิจใหม่ รับเทรนด์แห่งโลกอนาคต

SCC ทุ่มงบลงทุน 5 ปี 1 แสนลบ. ลุย 6 ธุรกิจใหม่ พลังงานสะอาด-สุขภาพและการแพทย์-ดิจิทัลโลจิสติกส์-นวัตกรรมกรีน-สมาร์ทลิฟวิ่ง-หุ่นยนต์อัจฉริยะ หวังรองรับเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลง

 

.

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยภายในงานแถลงข่าว “SCG : The Next Chapter” ว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า (66-70) รวมอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าขยายโครงการลงทุนของบริษัททั่วโลก โดยเฉพาะการขยายการลงทุนใน 6 กลุ่มธุรกิจใหม่ ได้แก่ พลังงานสะอาด, สุขภาพและการแพทย์, ดิจิทัลโลจิสติกส์, นวัตกรรมกรีน, สมาร์ทลิฟวิ่ง, หุ่นยนต์อัจฉริยะ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอาเซียนและโลกในอนาคต

.

ทั้งนี้ ด้านพลังงานสะอาดครบวงจร บริษัทตั้งเป้ากำลังการผลิตพลังงาน

แสงอาทิตย์ (Solar Energy) แตะ 3,000 เมกะวัตต์ (MW) ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตกว่า 195 MW และตั้งเป้าพัฒนานวัตกรรม Heat Battery หรือThermal Energy Storage ประสิทธิภาพสูงที่สามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าที่ได้จาก solar เป็นพลังงานความร้อน กักเก็บความร้อนไว้ใช้ในช่วงที่ไม่มีแสงแดด เพื่อให้โรงงานมีพลังงานไว้ใช้และป้องกันปัญหาพลังงานขาดแคลน รวมถึงมุ่งพัฒนาพลังงานชีวมวลคุณภาพสูง (Biomass และ Biocoal) จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และเชื้อเพลิงจากขยะ(RDF) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนในโรงงานซีเมนต์

.

ขณะที่ด้านโซลูชันสุขภาพและการแพทย์ จะเน้นขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์กว่า 15,000 รายการ โดย SCGP เข้าถือหุ้น Deltalab ประเทศสเปน และเม็ดพลาสติกเพื่อการแพทย์ SCGC™ PP และ PVC สำหรับผลิตอุปกรณ์การแพทย์และเภสัชกรรม

.

ส่วนด้านดิจิทัลโลจิสติกส์ครบวงจร (Digital logistics) บริการขนส่งและซัพพลายเชนครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดย SCGJWD ให้บริการทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ขนส่งหลากหลายทั้งทางบก,เรือ ,ราง และอากาศ เพื่อรองรับสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ พร้อมเครือข่ายครอบคลุมทั่วอาเซียนและจีน

.

ด้านนวัตกรรมกรีน จะเน้นลดใช้ทรัพยากร ส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ ภายใต้ฉลาก SCG Green Choice จำนวน 232 รายการ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายจาก 50% เป็น 67% ภายในปี 73

.

โดยด้านสมาร์ทลิฟวิ่ง จะเน้นโซลูชันเพื่ออากาศสะอาดและประหยัดพลังงาน สำหรับกลุ่มอาคาร, กลุ่มที่อยู่อาศัยบ้าน/คอนโดฯ และระบบดูแลสุขภาพและความปลอดภัยด้วย DoCare เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อบ้านกับโรงพยาบาล ส่งข้อมูล ติดตามอาการ-ปรึกษาแพทย์แบบเรียลไทม์ (Real time)

.

และด้านหุ่นยนต์อัจฉริยะ เพื่อช่วยลดต้นทุนและแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต เช่น Smart Farming, เครื่องจักรกล-ออโตเมชั่น ให้บริการออกแบบ ผลิตเครื่องจักรกลให้โรงงานต่างๆ ที่มีความต้องการที่หลากหลาย ให้ใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning ตั้งแต่กระบวนการผลิต ประกอบ บรรจุ ลำเลียงและระบบคลังสินค้า อาทิ เครื่องจักรกลช่วยไลน์ประกอบรถยนต์ หุ่นยนต์ช่วยจัดเรียงสินค้า และเครื่องคัดแยกกุ้ง

.

นอกจากนี้สำหรับความกังวลของการดำเนินธุรกิจในปีหน้าคือ ความผันผวนของราคาพลังงานและต้นทุนราคาวัตถุดิบซึ่งสิ่งที่บริษัทต้องดำเนินการตอนนี้คือจะทำอย่างไรให้ธุรกิจใช้พลังงานลดลงหรือหันไปใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น

.

“สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมปีหน้า ส่วนตัวมองว่าก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและทิศทางราคาพลังงานจะเป็นอย่างไร”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

.

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่าคาดว่าหากจีนเปิดประเทศจำนวนนักท่องเที่ยวก็จะกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจและภาคการก่อสร้างในประเทศไทยที่จะเริ่มกลับมา รวมถึงในส่วนของธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมีและธุรกิจบรรจุภัณฑ์ก็กลับมาเติบโตมากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกของบริษัท

.

อย่างไรก็ตามด้านราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นคาดว่าเป็นสิ่งที่บริษัทต้องปรับตัวรับมือ เพราะไม่ใช่แค่ 1-2 ปีแล้วจบ แต่อาจยืดเยื้อมากขึ้น โดยมองเทรนด์พลังงานในอนาคตที่บริษัทสนใจหลักๆ ได้แก่ พลังงานลมและไฮโดรเจน พร้อมตั้งเป้าลดการใช้พลังงานจากถ่านหินลดลง 70% ภายในปี 73

***********************************

 

 


สีน้ำ