ห้องเม่าปีกเหล็ก

“หุ้น Laggards จะฟื้นตัวขึ้นจากลมเปลี่ยนทิศ”

โดย พายุ
เผยแพร่ :
208 views

“หุ้น Laggards จะฟื้นตัวขึ้นจากลมเปลี่ยนทิศ”

 

กลยุทธ์การลงทุนเดือน ส.ค.

 

คาดหุ้นกลุ่ม laggard จะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในเดือนส.ค. จากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยซึ่งปรับลดลง 8% YTD และเคลื่อนไหวน้อยกว่าตลาดหุ้นทั่วโลก (MSCIACWI เพิ่มขึ้น 16% YTD) จะฟื้นตัวขึ้นในเดือนส.ค.

 

หนุนจาก

1) การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ด้วยนโยบายที่เป็นมิตรต่อตลาดซึ่งคาดจะกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศ

2) ตัวเลขการส่งออกของไทยที่คาดฟื้นตัวขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566 หนุนจาก GDP ทั่วโลกที่ดีขึ้นและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน

3) ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นซึ่งคาดจะชะลอการปรับลดคาดการณ์ EPS ของตลาดและส่งผลให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีคิดเป็นสัดส่วนที่ 26% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 และ 16% ของ market cap

4) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงและ upside ที่น่าดึงดูดใจของตลาดหุ้นในประเทศเกิดใหม่จะช่วยขับเคลื่อนกระแสเงินไหลเข้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะหุ้นที่ยัง laggard จากการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย (เช่น จีนและไทย)

 

เราคงเป้า SET Index ไว้ตามเดิมที่ 1,666 จุด คำนวณด้วยประมาณการ EPS ปี 2567 ที่ 107 บาท และ PE ล่วงหน้า 12 เดือนที่ 15.60 (+0.5SD) เราแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจาก upside ต่อกำไรสุทธิจากปัจจัยหนุนข้างต้นหลังเผยแพร่บทวิเคราะห์ หัวข้อ “กลยุทธ์ “Bottom Fishing” เมื่อเดือนที่แล้ว เราแนะนำให้นัดลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มี “beta สูง” หรือ “laggard” ซึ่งมูลค่ายังต่ำอยู่เพราะคาดจะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในช่วงขาขึ้นของตลาด

 

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในเดือนส.ค.2566 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนควรจับตามองคือ

1) ภาวะเงินเฟ้อระลอกสองในสหรัฐฯ จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและค่าแรงที่มากขึ้นซึ่งคาดจะส่งผลให้ Fed ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก

2) ปัญหาด้านโครงสร้างซึ่งอาจจำกัดการเติบโตในระยะยาวของประเทศไทย (เช่น ผลิตภาพแรงงานที่ลดลง ส่วนแบ่งการส่งออกของไทยทั่วโลกทรงตัวมากว่า 10 ปี หนี้ครัวเรือนระดับสูงและสังคมผู้สูงอายุ)

3) รายได้ภาคเกษตรที่ลดลงผลจากปรากฎการณ์เอลนีโญในครึ่งหลังปีนี้

4) การประท้วงทางการเมืองซึ่งคาดจะฉุดการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนจุดหมายการเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ.

 

เราตัด KTB, OSP, ADVANC, AOT, HANA, GFPT และ MEGA ออกจากรายชื่อหุ้นเด่นของเราและเลือก BBL, COM7, TRUE, GLOBAL, BANPU, TOP และ AMATA เข้ามาแทน

 

เรามี 4 ธีมลงทุนหลักดังต่อไปนี้

 

กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (AEONTS, BBL, COM7, TRUE, MAJOR และ GLOBAL) นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่มุ่งเน้นไปยังการเพิ่มการเติบโตของเศรษฐกิจคาดจะส่งผลบวกต่อผู้เล่นในประเทศมากที่สุด

 

กลุ่มผู้เล่นทั่วโลกจาก GDP โลกที่ดีขึ้นและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน (PTTEP, BANPU และ TOP) เราคาดว่ากลุ่มพลังงานจะได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นหนุนจาก GDP ทั่วโลกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

 

กลุ่มท่องเที่ยว (MIT, SNNP และ CPN) จากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่คาดจะเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังปีนี้

 

กลุ่มย้ายฐานการผลิตในภูมิภาค (AMATA) เราคาดว่ากลุ่มนิคมอุตสาหกรรมจะได้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคที่ดีขึ้น

 


พายุ