เช็ก 5 หุ้น IPO น้องใหม่ ปี 2566 ราคาดิ่งหนักสุด ติดลบเกิน 50%
หุ้นไอพีโอน้องใหม่ ที่เข้าเทรดปีนี้กว่า 31 หลักทรัพย์ มีเพียง 10 หลักทรัพย์ ที่ให้อัตราตอบแทนจากราคายังคงเป็นบวก ส่วนที่เหลือติดลบทั้งสิ้น และพบว่า 5 หลักทรัพย์ ราคาติดลบเกิน 50% ขึ้นไป หุ้น BLC ติดลบมากสุด 59.62%
ปี 2566 ผ่านไปแล้ว10 เดือนเศษ มีหุ้นน้องใหม่หรือหุ้น IPO (Initial Public Offering) เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว 31 หลักทรัพย์ โดยหุ้น IPO ล่าสุดคือ บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ WINDOW ที่เข้าเทรดในวันที่ 25 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา ปิดเทรดวันแรกที่ระดับ 1.27 บาท ลดลง 0.83 บาท หรือ 39.52% จากราคา IPO ที่ 2.10 บาท
ทั้งนี้ จากภาวะตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีติดลบอยู่ที่ -16.64% หลังจากที่ต้องประสบกับภาวะปัจจัยลบหลายอย่างทั้งนอกประเทศและในประเทศที่เข้ามารุมเร้า จึงส่งผลให้หุ้นไอพีโอหลายหลายรายที่เข้าเทรดในปีนี้ราคาล้วนแล้วต่างต่ำจอง และบางรายอาจติดลบกว่า 50%
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า หุ้นไอพีโอที่มีการปรับตัวลดลงในช่วงหลังเป็นผลสืบเนื่องมาจากตลาดที่ไม่ได้เอื้อ ซึ่งเมื่อสภาพตลาดไม่ดีในวันที่เข้า หากดูตั้งแต่ต้นปีจะมีหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในการจองซื้อหุ้น แต่ทว่าช่วงหลังกลายเป็นปรับตัวลง ซึ่งหุ้นบางตัวเปิดลบลงมาทำให้นักลงทุนไม่มีโอกาสได้ขายออกทัน จึงทำให้ส่วนหนึ่งนักลงทุนมั่นใจกับหุ้นไอพีโอลดลง หากวันแรกไม่ได้ขาย วันถัด ๆ อาจจะขาดทุนได้
โดยในปีนี้จะเห็นจำนวนหุ้นไอพีโอค่อนข้างมาก พอซัพพลายเริ่มมาก กับประมาณเงินที่มีจำนวนจำกัด ส่งผลให้นักลงทุนต้องมีการหมุนเงิน เช่นพอซื้อหุ้น ก. ไม่ทันไรก็ขายออกไปก่อน เพื่อไปเล่นตัวใหม่ ซึ่งในช่วง 1 - 2 ปีนี้ถือว่าหุ้นไอพีโอออกมาค่อนข้างมากเกินไป ส่งผลให้ความน่าสนใจอาจจะลดลงไปได้ด้วย
ปีนี้ถ้าหากดูหุ้นไอพีโอที่เข้า SET มีอยู่ 13 หลักทรัพย์ เข้า MAI 17 หลักทรัพย์ รวมทั้งสิ้นเป็น 30 หลักทรัพย์ ซึ่งภาพของหุ้นไอพีโอดูจะมีความอ่อนแรงมาตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา
หากเทียบกับในอดีต การออกหุ้นไอพีโอในแต่ละปีไม่ได้มีจำนวนมากขนาดนี้ เพราะว่า หลังจากนี้จะมีการปรับเกณฑ์ออกหุ้นไอพีโอใหม่ หากบริษัทต่าง ๆ อย่างจะใช้เกณฑ์เดิมก็เลยอาจจะมีการเร่งเข้าตลาดกัน ก่อนที่จะมีความเข้มงวดกับการปรับเกณฑ์ใหม่ใน 1 - 2 ปีนี้
“นักลงทุนจะเห็นหุ้นอยู่ในตลาดว่า เซกเตอร์ไหนควรให้พีอีสูง หรือเซกเตอร์ไหนควรให้พีอีต่ำ เพราะหุ้นหลักทรัพย์อาจจะเข้าตลาดหุ้นมาในช่วงที่เซกเตอร์นั้นเป็นขาลงก็มีส่วนด้วยเช่น รวมถึงการกำหนดราคาที่สูงจนเกินไปทำให้มีผลที่หุ้นหลักทรัพย์นั้นจะปรับตัวลงมาได้เช่นกัน”
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หุ้นไอพีโอที่มีการปรับตัวลดลงมานั้น ส่วนใหญ่เป็นไปตามภาวะตลาด ซึ่ง SET ตั้งแต่ต้นปี 2566 ปรับตัวลดลงมากว่า 16% ส่งผลให้หุ้นไอพีโอที่เข้ามาต่างให้ผลตอบแทนที่ไม่ค่อยดีมากนัก
“ปีนี้ถ้าตลาดหุ้นดี ปีที่แล้วอาจจะไม่ดี ส่วนใหญ่จะสลับกันไปมา ยกตัวอย่างเช่น ในปีก่อนนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐไม่ค่อยดี พอมาในปีนี้ตลาดสหรัฐค่อนข้างดี ปีหน้าอาจจะเป็นตลาดหุ้นไทยที่กลับมาดูดีขึ้นได้ แต่ยังคงต้องดูภาพรวมของเศรษฐกิจว่า ยังไม่ถดถอย แต่ถ้าเกิดการถดถอยอาจจะต้องประสบกับภาวะเศรษฐกิจทั้งโลกได้ จึงเป็นการประคับประคองสถานการณ์ต่อไป อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลัง และในต้นปีหน้าอาจจะคาดหวังผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยได้ น่าจะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามา”
ทั้งนี้เทรนด์การลงทุนก็มีผลการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนด้วยเช่นกัน ในช่วงธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโต มีความมั่นคง นักลงทุนจะอาจจะอยากเข้าไปลงทุนมากกว่าเซกเตอร์ หรือเทรนด์ที่เป็นช่วงขาลงมากกว่า
“กรุงเทพธุรกิจ” ได้สำหรับหุ้นไอพีโอน้องใหม่ ที่เข้าเทรดปีนี้กว่า 31 หลักทรัพย์ มีเพียง 10 หลักทรัพย์ ที่ให้อัตราตอบแทนจากราคายังคงเป็นบวก ส่วนที่เหลือติดลบทั้งสิ้น และพบว่า 5 หลักทรัพย์ ราคาติดลบเกิน 50% ขึ้นไป
1.บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC
- ตลาด SET
- อุตสาหกรรม CONSUMP / PERSON
- วันแรกที่ซื้อขาย 21 มิ.ย. 2566
- ราคาไอพีโอ 10.50 บาท
- ราคา ณ 25 ต.ค.66 ที่ 4.24 บาท
- เปลี่ยนแปลง -6.26 บาท -59.62%
2.บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ PQS
- ตลาด SET
- อุตสาหกรรม AGRO / FOOD
- วันแรกที่ซื้อขาย 15 ก.พ. 2566
- ราคาไอพีโอ 6.00 บาท
- ราคา ณ 25 ต.ค.66 ที่ 2.62 บาท
- เปลี่ยนแปลง -3.38 บาท -56.33%
3.บริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ SAF
- ตลาด mai
- อุตสาหกรรม INDUS
- วันแรกที่ซื้อขาย 19 ม.ค. 2566
- ราคาไอพีโอ 1.93 บาท
- ราคา ณ 25 ต.ค.66 ที่ 0.86 บาท
- เปลี่ยนแปลง -1.07 บาท -55.44%
4.บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON
- ตลาด mai
- อุตสาหกรรม SERVICE
- วันแรกที่ซื้อขาย 31 มี.ค. 2566
- ราคาไอพีโอ 4.50 บาท
- ราคา ณ 25 ต.ค.66 ที่ 2.02 บาท
- เปลี่ยนแปลง -2.48 บาท -55.11%
5.บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI
- ตลาด mai
- อุตสาหกรรม CONSUMP
- วันแรกที่ซื้อขาย 22 มี.ค. 2566
- ราคาไอพีโอ 3.00 บาท
- ราคา ณ 25 ต.ค.66 ที่ 1.44 บาท
- เปลี่ยนแปลง -1.56 บาท -52.00%