วอร์เรน บัฟเฟตต์: จดหมายฉบับสุดท้ายของซีอีโอ

วอร์เรน บัฟเฟตต์: จดหมายฉบับสุดท้ายของซีอีโอ

การส่งต่อยุคสมัย และคำเตือนถึงนักลงทุนทั่วโลก

จดหมายประจำปีของวอร์เรน บัฟเฟตต์ไม่ใช่แค่เอกสารของบริษัท แต่เป็น “คู่มือความคิด” ของโลกการลงทุน ที่สะท้อนวิธีคิดเชิงวินัย ความอดทน และความซื่อตรงแบบที่หายากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคนี้

ปี 2025 จึงเป็นปีที่มีความหมายเป็นพิเศษ

เพราะนี่คือ จดหมายฉบับสุดท้ายของบัฟเฟตต์ในฐานะซีอีโอ Berkshire Hathaway

และเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่งอย่างแท้จริง

เกร็ก เอเบล: ผู้นำคนใหม่ที่บัฟเฟตต์เลือกด้วยมือของตัวเอง

สารสำคัญที่สุดของจดหมาย คือการยืนยันเต็มร้อยต่อ เกร็ก เอเบล (Greg Abel) ว่าคือผู้นำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Berkshire ในยุคถัดไป

บัฟเฟตต์เขียนด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและสงบนิ่งว่า

เกร็กเข้าใจทั้งธุรกิจ คน และวัฒนธรรมของ Berkshire “ลึกซึ้งกว่าตัวเขาเองในหลายด้าน” โดยเฉพาะธุรกิจประกันภัยที่เป็นแกนกลางของบริษัท

เพื่อแสดงความเชื่อมั่น เขาย้ำว่าจะถือหุ้น Class A จำนวนมากต่อไป

“จนกว่าผู้ถือหุ้นจะรู้สึกสบายใจอย่างเต็มที่ต่อผู้นำคนใหม่”

นี่ไม่ใช่เพียงการส่งมอบตำแหน่ง แต่คือ การส่งมอบความไว้วางใจที่ผ่านการคิดมานานหลายทศวรรษ

การบริจาคหุ้นครั้งใหญ่: การส่งต่อคุณค่ามากกว่าเงิน

บัฟเฟตต์เปิดเผยการแปลงหุ้น Class A จำนวน 1,800 หุ้นเป็น Class B กว่า 2.7 ล้านหุ้น เพื่อนำไปบริจาคให้มูลนิธิของลูกทั้งสามคน

เขาอธิบายเรียบง่ายว่า

นี่คือการให้โอกาสลูกได้จัดการทรัพย์สินของตนเอง “ในช่วงที่ยังมีพลังและสติปัญญาสมบูรณ์”

ไม่ใช่เรื่องของการลดน้ำหนัก Berkshire

แต่เป็นเรื่องของ ค่านิยม ที่เขาย้ำมาตลอดว่า

“ความมั่งคั่งควรนำไปสร้างโอกาสให้สังคม ไม่ใช่สร้างอัตตาให้ตัวเอง”

อนาคต Berkshire: แข็งแรง แต่ต้องยอมรับความจริงเรื่องขนาด

บัฟเฟตต์ย้ำว่าธุรกิจของ Berkshire ยังคงได้เปรียบเหนือบริษัทส่วนใหญ่

เพราะกระจายตัวดี ทนต่อสภาพเศรษฐกิจ และบริหารแบบระมัดระวัง

แต่เขาก็พูดตรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปีว่า

“อีกหนึ่งหรือสองทศวรรษข้างหน้า อาจมีหลายบริษัทที่ทำผลงานได้ดีกว่า Berkshire”

เพราะความใหญ่ของ Berkshire วันนี้ คือทั้ง ข้อได้เปรียบ และ ข้อจำกัด ในเวลาเดียวกัน

น้ำเสียงนี้สะท้อนความซื่อสัตย์แบบที่เป็นเอกลักษณ์ของชายคนนี้—ไม่ปั้นฝัน ไม่ขายภาพลวง

คำเตือนสุดท้าย: ราคาหุ้นอาจร่วง 50% ได้อีกครั้ง

ช่วงที่ทรงพลังที่สุดในจดหมาย คือคำเตือนที่เขาอยากฝากไว้เป็นมรดกความคิดสำหรับนักลงทุนทั่วโลก:

“ราคาหุ้นของเราอาจร่วงลง 50% ได้อีก

มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วสามครั้งใน 60 ปี

อย่าสิ้นหวัง อเมริกาจะกลับมา และ Berkshire จะกลับมาด้วย”

นี่คือบทเรียนที่นักลงทุนทุกคนควรจดจำ

ตลาดผันผวนเป็นเรื่องปกติ

แต่วินัยและวิธีคิดต่างหากที่อยู่กับเราไปตลอดชีวิต

พิมพ์เขียวผู้นำอนาคต: ไม่เร่งเกษียณ ไม่หมกมุ่นความรวย ไม่สร้างราชวงศ์

บัฟเฟตต์ยังฝากคำแนะนำถึงคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับผู้นำในอนาคต 3 ประการ:

ไม่ใช่คนที่อยากรีบเกษียณ

ไม่ใช่คนที่หลงไหลความร่ำรวยจนเกินพอดี

ไม่ใช่คนที่อยากสร้างราชวงศ์ของตัวเอง

นี่คือกฎเหล็กที่เขาตั้งใจเขียนลงในประวัติศาสตร์ Berkshire

เพื่อให้บริษัทเดินบนเส้นทางเดิมแม้ยุคของเขาจะล่วงผ่านไปแล้ว

บทสรุป: จดหมายที่เป็นมากกว่าการอำลาตำแหน่ง

จดหมายฉบับสุดท้ายของบัฟเฟตต์คือการสรุปชีวิตการบริหารกว่า 60 ปี

เป็นการส่งต่อวิธีคิดมากกว่าการสรุปผลประกอบการ

เป็นการส่งต่อ “วัฒนธรรม” มากกว่าการส่งต่อ “อำนาจ”

มันเต็มไปด้วยความนิ่ง สติ ความรับผิดชอบ และโลกทัศน์ที่รอบคอบ

ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นนักลงทุนที่คนนับถือมากที่สุดในยุคของเรา

แม้เขาจะลงจากตำแหน่งซีอีโอ

แต่จดหมายของเขาจะยังเป็นเข็มทิศให้ Berkshire

และนักลงทุนทั่วโลกอีกหลายทศวรรษข้างหน้า

ที่มาเนื้อหาจาก..  หุ้นพอร์ทระเบิด