“ของยุโรป” ไม่ได้แพ้เสมอไป... ไทยส่ง Gripen ขึ้นจริงครั้งแรก สะเทือนทั้งวงการค้าอาวุธโลก
วันที่ 26 กรกฎาคม 2025 เครื่องบินขับไล่ Saab Gripen ของกองทัพไทยถูกส่งขึ้นปฏิบัติภารกิจจริงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นี่คือครั้งแรกที่ Gripen ได้แสดงศักยภาพในภารกิจรบจริงบนเวทีเอเชีย และเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยกลายเป็น "สนามทดสอบ" ให้กับอาวุธยุโรปบนเวทีจริงอย่างแท้จริง
หลายคนอาจไม่เคยคาดคิดว่าประเทศในอาเซียนอย่างไทย จะกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมของอุตสาหกรรมอาวุธยุโรป แต่วันนี้... ไทยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นศรัทธาต่อ "ของยุโรป" อีกครั้งในตลาดโลก

Gripen: จากพระรอง สู่พระเอกแห่งสมรภูมิ
ที่ผ่านมา Gripen มักถูกมองว่าเป็น "ตัวเลือกสำรอง" รองจาก F-35 ของอเมริกา, Su-57 ของรัสเซีย หรือแม้แต่ J-20 ของจีน ด้วยเหตุผลว่า Gripen รุ่น E/F ยังไม่ใช่เครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 แบบเต็มตัว ไม่ใช่ Stealth Fighter ในความหมายของตลาด
แม้จะมีจุดเด่นในด้านต้นทุนการใช้งานต่ำและข้อเสนอด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี Gripen ก็ยังคงพ่ายแพ้ในหลายดีลใหญ่ เช่น ฟินแลนด์ แคนาดา หรือสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเลือก F-35 ด้วยเหตุผลทางการเมืองและพันธมิตรเป็นหลัก
แต่เมื่อไทยหยิบ Gripen ขึ้นมาใช้ "จริง" และ "เวิร์กจริง" ในสถานการณ์ชายแดน ผลลัพธ์ก็สะเทือนไปไกลกว่าที่ใครคาดคิด
ไทยโชว์ “ของยุโรป” ว่าใช้งานได้จริง
ภาพเครื่องบิน Gripen ของไทยที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกับระบบเรดาร์และอาวุธยุคใหม่ ช่วยลบภาพจำเดิมว่า "ของยุโรปด้อยกว่า" ได้อย่างชัดเจน หลายประเทศเริ่มกลับมามองว่า Gripen อาจเป็นคำตอบที่คุ้มค่าและเป็นอิสระกว่าที่คิดไว้
เพราะสิ่งที่ Gripen มีคือ “ต้นทุนต่อชั่วโมงการบินต่ำ” กว่า F-35 หรือ Typhoon อย่างชัดเจน “ระบบอาวุธที่คล่องตัว” และสามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นได้ดี และที่สำคัญคือ “ซัพพลายเชนที่ไม่ขึ้นกับสหรัฐฯ” พร้อมส่งมอบไวและมีความยืดหยุ่นสูง
สะเทือนถึงยุโรป: ตลาดเริ่มเปลี่ยนใจ
ภายหลังภารกิจของไทย เสียงตอบรับจากหลายประเทศทั่วโลกเริ่มดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โปรตุเกสกำลังเจรจาอย่างจริงจัง โดยวาง Gripen เป็นตัวเลือกแทน F-35 เพื่อเพิ่มความพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยียุโรป
เช็กและฮังการี ซึ่งใช้ Gripen มานานกว่า 20 ปี ก็เริ่มมีแผนขยายฝูงบินเพิ่มเติม สวิตเซอร์แลนด์เองเริ่มหันกลับมาพิจารณา Gripen อีกครั้ง หลังดีลกับ F-35 เจอปัญหาด้านงบประมาณและการส่งมอบ
แม้แต่นอกยุโรป เช่น โคลอมเบีย เปรู และบราซิล ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาหรือขยายดีล Gripen โดยเฉพาะโคลอมเบียที่เพิ่งเซ็น MOU กับ Saab ไปหมาด ๆ
Saab ยิ้ม ยอดขายพุ่ง เพราะ “คนไทยกล้าใช้จริง”
ผู้บริหารของ Saab ให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า “นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ Gripen ในรอบหลายปี” เพราะภาพลักษณ์ของ Gripen กำลังถูกรีแบรนด์ใหม่ในตลาดโลก ไม่ใช่เพราะโฆษณา แต่เพราะ “มีประเทศหนึ่งใช้จริง และเวิร์กจริง”
และประเทศนั้นก็คือ “ประเทศไทย”
สรุป: ไทยไม่ใช่ลูกค้าใหญ่ แต่เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่
ในโลกของการทหาร ทุกประเทศต้องการอาวุธที่ใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่แพงและล้ำ คนในวงการรู้ดีว่า ไม่ใช่ทุกประเทศจะซื้อ F-35 ได้ และไม่ใช่ทุกประเทศอยากพึ่งพาอเมริกา
Gripen กลายเป็นทางเลือกที่สมดุลระหว่างงบประมาณ ความคล่องตัว และความมั่นคงทางยุทธศาสตร์
บทพิสูจน์จากไทยไม่เพียงแต่สร้างความมั่นใจ แต่ยังทำให้หลายประเทศเริ่มถามตัวเองว่า
“ของยุโรป... อาจจะเวิร์กกว่าที่คิด?”
และทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากการที่ "ไทยกล้าใช้จริง" จนทั้งโลกเริ่มกล้ามองต่างมุมใหม่อีกครั้ง
ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก. KIM Property Live