จีน ส่งสัญญาณเปิดประเทศ ยันยินดีต้อนรับการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติมากขึ้น
จีน ส่งสัญญาณเปิดประเทศ ยันยินดีต้อนรับการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติมากขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันเศรษฐกิจ-ภาษีสหรัฐฯ
วันที่ 24 มีนาคม 2568 เวลา 00.30 น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า He Lifeng รองนายกรัฐมนตรีจีน แสดงความเชื่อมั่นต่อผู้นำภาคธุรกิจต่างชาติว่า จีนยังคงมุ่งมั่นเปิดเศรษฐกิจระดับสูง และยินดีต้อนรับการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติมากขึ้น

โดยระหว่างการพบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำ เช่น Apple, Pfizer, Mastercard, Eli Lilly และอีกหลายแห่งเมื่อวันที่ 23 มี.ค.68 He Lifeng รองนายกรัฐมนตรีจีน ยังได้หารือถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ โดยย้ำว่าเศรษฐกิจจีนยังมีความยืดหยุ่น เปี่ยมด้วยศักยภาพ และเต็มไปด้วยพลัง
ผู้บริหารที่เดินทางมาร่วมงาน China Development Forum ซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มี.ค.68 ที่กรุงปักกิ่ง รวมถึง Tim Cook จาก Apple, Cristiano Amon จาก Qualcomm, Pascal Soriot จาก AstraZeneca รวมถึงวุฒิสมาชิกสหรัฐ สตีฟ เดนส์ ซึ่งนับเป็นนักการเมืองอเมริกันคนแรกที่เยือนจีน นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อต้นปี
จีนกำลังเร่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ เพื่อชดเชยภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแรงจากการบริโภคที่ซบเซาและวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ ขณะเดียวกันการส่งออกซึ่งเป็นจุดแข็งในเศรษฐกิจจีนก็เผชิญแรงกดดันจากภาษีใหม่ของสหรัฐภายใต้รัฐบาลทรัมป์
ในการเปิดงานฟอรั่มธุรกิจนี้ หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เรียกร้องให้ทุกประเทศเปิดตลาดท่ามกลางกระแสกีดกันทางเศรษฐกิจ และเชิญชวนผู้ประกอบการให้เป็นผู้สนับสนุนโลกาภิวัตน์อย่างแท้จริง
เมื่อเดือนที่แล้วคณะรัฐมนตรีจีนเพิ่งประกาศแผนดึงดูดการลงทุนต่างชาติฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกข้อจำกัดบางประการในภาคการผลิต และปรับปรุงกระบวนการควบรวมกิจการของทุนต่างชาติในจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะเดียวกันรัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 20% จากข้อกล่าวหาเรื่องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบส่งเฟนทานิล (fentanyl) ซึ่งเป็นสารเสพติดที่มีความรุนแรงสูง ทั้งยังคาดว่าจะสรุปผลการประเมินความคืบหน้าในข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนฉบับก่อนหน้า ภายในวันที่ 1 เมษายน 2568
ในเวทีหารือแยกเมื่อวันที่ 23 มี.ค. หลี่ เฉียง กล่าวกับวุฒิสมาชิกเดนส์และผู้บริหารจากบริษัทสหรัฐว่า “จีนและสหรัฐต่างได้ประโยชน์จากความร่วมมือ และจะสูญเสียหากเผชิญหน้ากัน” พร้อมย้ำว่า “ไม่มีประเทศใดสามารถเจริญรุ่งเรืองได้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้า”
ด้านเดนส์ โพสต์บน X ว่า ผู้บริหารสหรัฐยืนยันความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจในจีน พร้อมเปิดเผยความท้าทายที่กำลังเผชิญ และย้ำข้อเรียกร้องของทรัมป์ให้จีนจัดการกับแหล่งต้นตอของสารเฟนทานิล พร้อมยังระบุว่าหวังให้เกิดการเจรจาระดับสูงระหว่างสองประเทศในเร็ว ๆ นี้
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จีนยังได้หารือกับผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติ เช่น Airbus, PepsiCo, Procter & Gamble และ Honeywell เพื่อสร้างความมั่นใจด้านนโยบายและส่งเสริมการลงทุนในจีน
อ้างอิง : cnbc.com
ที่มา.. https://moneyandbanking.co.th/