ห้องเม่าปีกเหล็ก

THCOM ปันผล 0.50 บาท/หุ้น

โดย อิคคิวซัง
เผยแพร่ :
233 views

THCOM กำไรปี 65 ที่ 42 ลบ. ลดลง 70% ปันผล 0.50 บาท/หุ้น ลงทุนสร้างดาวเทียมใหม่ 1.5 หมื่นลบ.

 

.

บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM รายงานผลดำเนินงานปี 65 มีกำไรสุทธิ 42.21 ล้านบาท ลดลง 70.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 143.63 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 3/65 มีการบันทึกการด้อยค่าดาวเทียม จำนวน 259 ล้านบาท จากแนวโน้มความต้องการบริการบรอดคาสต์ลดลง ประกอบกับความล่าช้าในการขออนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมในต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การขายช่องสัญญาณล่าช้าจากแผนเดิม

.

บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการในปี 2565 จำนวน 2,927 ล้านบาท ลดลง 11.4% จาก 3,303 ล้านบาทในปี 2564 เป็นผลมาจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการลูกค้าบรอดคาสต์ในประเทศ รวมถึงการลดลงของรายได้จากการให้บริการลูกค้าบรอดแบนด์ต่างประเทศ

.

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนขายและการให้บริการในปี 2565 มีจำนวน 1,500 ล้านบาท ลดลง 36.1% จาก 2,349 ล้านบาทในปี 2564 จากการสิ้นสุดลงของสัมปทานดาวเทียมซึ่งทำให้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาดาวเทียมและต้นทุนค่าสัมปทานลดลง

.

ทั้งนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งผลขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทย่อยและการร่วมค้า จำนวน 306 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 14.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) ยังคงเติบโต และมีกำไรจากการดำเนินงานต่อเนื่อง แต่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จากการปรับปรุงหนี้สกุลดอลลาร์

.

ที่ประชุมคณะกรรมการยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 ในอัตรา 0.50 บาท กำหนด วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 เม.ย. 2566 และกำหนดจ่าย วันที่ 26 เม.ย.2566

.

และอนุมัติให้บริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จำกัด (STI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนโครงการดาวเทียม โดยการขอรับใบอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก และ 120 องศาตะวันออก และชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 78.5 องศาตะวันออก ซึ่ง STI เป็นผู้ชนะการประมูลจากคณะกรรมการกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช. )

.

และเนื่องจากการสร้างดาวเทียมเฉพาะของชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการให้ทันก่อนที่ดาวเทียมไทยคม 4 (ซึ่งบริษัทฯ ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน) จะหมดอายุลง (ตามการประเมินทางวิศวกรรมคาดว่าจะสิ้นสุดอายุประมาณปี 2567) เพื่อให้บริษัทฯ สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

.

คณะกรรมการบริษัทฯจึงอนุมัติให้ STI ดำเนินการลงทุนก่อสร้างดาวเทียมของชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออกก่อน เป็นการพิจารณาการลงทุนในการก่อสร้างดาวเทียมของชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก และค่าธรรมเนียมชุดข่ายงานดาวเทียมทั้งหมด โดยมีกรอบวงเงินการลงทุนสูงสุดเป็นจำนวนเงินไม่เกินประมาณ 15,203 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

.

ประกอบด้วย (ก) ค่าธรรมเนียมชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก และ 120 องศาตะวันออก และค่าธรรมเนียมชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 78.5 องศาตะวันออก จำนวนเงินประมาณ 797.43 ล้านบาท และ (ข) การสร้างดาวเทียมของชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก พร้อมทั้งนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพื่อรักษาสิทธิในการเข้าใช้ข่ายงานดาวเทียมวงโคจร รวมตลอดจนถึงการก่อสร้างสถานีควบคุมดาวเทียม (Telemetry, Tracking, Command and Monitoring - TTC&M) สถานีควบคุมการบริหารจัดการดาวเทียม (Traffic Management หรือ Gateway Station) และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในวงเงินประมาณ 433.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 14,405.21 ล้านบาท

.

สำหรับวงโคจร 78.5 องศาตะวันออก STI ต้องมีดาวเทียมเพื่อรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมขั้นสมบูรณ์ภายในระยะเวลา 3 ปี หลังจากได้รับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ทำให้บริษัทฯ และ STI ยังคงมีเวลาอีกระยะหนึ่งในการพิจารณาการ ลงทุนโครงการดาวเทียมวงโคจร 78.5องศาตะวันออก โดยละเอียดรอบคอบ

.

ส่วนโครงการดาวเทียมวงโคจร 120 องศาตะวันออก เป็นดาวเทียมในชุดข่ายงานที่เป็นสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมขั้นต้น มีความจำเป็นต้องดำเนินการประสานงานคลื่นความถี่ให้ได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยและนำเสนอต่อ กสทช. ก่อนที่จะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดสร้างดาวเทียม บริษัทฯ และ STI จึงยังมิได้มีแผนการจัดสร้างดาวเทียมที่ตำแหน่งวงโคจรดังกล่าว

.

***********************************

 


อิคคิวซัง