ขอมาแชร์เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ P/E Ratio ครับ
เหตุผลหลักๆ ที่มักนำมาใช้กันนั้น คือ
- คำนวณง่าย คือ กดเครื่องคิดเลข หรือจะคิดในใจก็ง่าย แปบเดียว ค่าก็ออกมาแล้ว หรือถ้าไม่อยากกดเครื่องคิดเลข ก็ดูจากเว็บตลาดหลักทรัพย์ ก็มีค่านี้ แปะไว้เลย ถ้าใช้วิธีการประเมินมูลค่าหุ้นแบบอื่น เช่น วิธี DDM (Dividend Discount Model), DCF (Discounted Cash Flow), ซึ่งต้องใช้เวลาในการหาค่าพวกนี้นาน จึงไม่ค่อยนิยมหรือสนใจกันในวงกว้าง
- เปรียบเทียบได้ง่าย คือ คำนวณตัวนี้ แล้วไปคำนวณตัวอื่นที่จะเทียบ ที่กิจการใกล้เคียงกัน หรือ อุตสาหกรรมเดียวกัน หรือจะเทียบกับตลาดก็ดูง่ายมาก
- ปรับราคาหุ้นแต่ละตัวที่แตกต่างกัน มาสู่ค่า P/E Ratio ก็จะนำมาคิดได้ง่ายว่าหุ้นนั้น ถูกหรือแพง ถ้า P/E สูง ก็คือ หุ้นแพง ถ้า P/E ต่ำ ก็คือหุ้นถูก
แต่ทว่า ค่านี้มีจุดด้อย ที่น่าสนใจ ที่เราในฐานะนักลงทุน ถ้าอ่านค่านี้ หรือ ประเมินหุ้นด้วยค่านี้ ควรจะต้องตระหนักหรือระวังเกี่ยวกับค่านี้ไว้นั้น คือ
1.ค่า P/E Ratio ต่างๆที่เห็น ส่วนใหญ่มักจะคำนวณจาก กำไรสุทธิ 4 ไตรมาส ย้อนหลัง ซึ่งในอนาคต กิจการอาจจะทำกำไรไม่ได้แบบนั้นตลอด
2.หุ้นบางตัวก็ไม่เหมาะกับการประเมินด้วยวิธี P/E Ratio เช่น
- หุ้นที่เกี่ยวกับโภคภัณฑ์จะมีกำไรผันผวนตามราคาสินค้าในตลาดโลก เช่น ธุรกิจน้ำมัน ถ่านหิน เรือ เหล็ก เป็นต้น
- หุ้นที่มีกำไรไม่สม่ำเสมอหรือเป็นวัฏจักร
- หุ้นที่เพิ่งฟื้นฟูกิจการตัวเองขึ้นมาได้ กำไรอาจจะยังไม่คงที่
3.อาจจะโดนหลอกจากค่ากำไรที่ผิดปกติบางอย่าง เช่น กำไรจากรายการพิเศษ กำไรจากการปรับมูลค่า กำไรจากการขายสินทรัพย์หรือซื้อสินทรัพย์ ซึ่งค่าพวกนี้จะไปทำให้ P/E Ratio ออกมาผิดไปจากที่ควรจะเป็น
4.P/E หุ้นบางตัวอาจจะสูงมาก เนื่องจาก มีการเติบโตของกำไรต่อเนื่อง ซึ่งต้องระวังว่า กิจการนั้นๆ จะยังเติบโตได้สูงต่อไปได้หรือไม่
ดังนั้น ก่อนจะประเมินมูลค่าหุ้น หรือ คำนวณ P/E Ratio นี้ ควรจะระวังเกี่ยวกับค่าของ กำไรต่อหุ้นที่ผิดปกติให้ดี ควรจะพยายามหาค่ากำไรที่เหมาะสมของกิจการให้ได้ และ ควรอ่านหมายเหตุประกอบงบการเงินเพิ่มเติมด้วยว่า มีอะไรที่พิเศษไหม สำหรับกำไรที่กิจการนั้นๆทำมาได้ เพื่อให้ได้ค่า P/E ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน ครับ
พี่ลงทุน
Partner Investors
มีเครื่องคิดเลขคำนวณ P/E Ratio มาให้โหลดฟรีๆกันด้วย คลิกที่ Link เว็บได้เลยครับ