STA-STGT ซื้อไว้ติดพอร์ต เตรียมวิ่ง

STA-STGT ตุนเข้าพอร์ตวันนี้ก่อนขึ้น XD วันที่ 23 สิงหาคม รับทรัพย์ปันผล 1.25 บาทต่อหุ้น ด้าน STGT มองยอดขายQ3/2564 ดีขึ้น เพราะไม่มีผลกระทบจากการปิดโรงงานแต่ราคาขายย่อตัวเล็กน้อย เดินหน้าขยายกำลังผลิตแตะ 36,000 ล้านชิ้นต่อปีคาดรายได้ทั้งกลุ่มปีนี้ชน 1 แสนล้านบาท ยันสถาบันต่างประเทศ-นักลงทุนรายใหญ่ สนใจลงทุนระยะยาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA และบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT จะขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ เพื่อจ่ายปันผลในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น โดย STA กำหนดจ่ายในวันที่ 8 กันยายน 2564 ขณะที่ STGT กำหนดจ่ายวันที่ 7 กันยายน 2564

นางสาวทิพย์วดี สุดเวหา ผู้จัดการกลุ่มงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยถึง บริษัทในกลุ่ม คือ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ว่า สำหรับล่าสุดที่อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถุงมือสำหรับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ชนิดใช้ครั้งเดียวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไป มองว่าเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมในการยกระดับมาตรฐานให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว ซึ่งถุงมือยางของบริษัทนั้นเป็นถุงมือยางที่ได้รับมาตรฐานในระดับสากลอยู่แล้ว ซึ่งการควบคุมมาตรฐานดังกล่าวก็จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยิ่งขึ้นไป

*ขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้น

ขณะที่ความต้องการถุงมือยางยังดีต่อเนื่อง คาดปีนี้ความต้องการถุงมือยางจะเติบโต 15-20% โดยไตรมาส 3/2564 คาดว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาส 2/2564 เพราะไม่มีผลกระทบจากการปิดโรงงาน แต่ในด้านราคาขายอาจจะเห็นการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย เพราะไม่มีการแข่งขันกันด้านราคาเหมือนช่วงที่ผ่านมา และบริษัทยังเดินหน้าขยายกำลังการผลิตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตถุงมือยางเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 36,000 ล้านชิ้นต่อปี จากเดิม 33,000 ล้านชิ้นต่อปี และเพิ่มเป็น 80,000 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2567

อีกทั้งบริษัทยังยืนยันการจ่ายปันผลต่อเนื่อง คาดว่าครึ่งปีหลังจะจ่ายอีกไม่น้อยกว่า 1.25 บาทต่อหุ้น ที่จะจ่ายในเดือนธันวาคม ภายหลังการอนุมัติงบไตรมาส 3/2564 ซึ่งสะท้อนผลประกอบการที่ยังดีต่อเนื่อง และบริษัทเดินหน้าในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Environmental, Social, Governance : ESG) มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความโดดเด่นด้าน ESG ต่อลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด และปัจจุบันนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ยังให้ความสนใจธุรกิจของบริษัทต่อเนื่อง จากโอกาสการเติบโต และปีนี้คาดว่าทั้งกลุ่มบริษัทจะทำได้รายได้ถึงระดับ 1 แสนล้านบาท

*แนวโน้มกำไรดีต่อเนื่อง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง STGT ว่าแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2564 จะเติบโตถึง 88% แม้คาดกำไรสุทธิปี 2565จะลดลง 39% จากแนวโน้มราขายถุงมือยางปรับลดลง ทั้งนี้ราคาหุ้น STGT มีค่า PER เพียง 4 เท่า อีกทั้ง ยังได้ประกาศจ่ายปันผล 1.25 บาท สำหรับงวดไตรมาส 2/2564 คิดเป็น Div Yield กว่า 3% และได้อนุมัติการจ่ายปันผลอีกไม่น้อยกว่า 1.25 บาท ในงวดไตรมาส 3/2564 จึงยังแนะนำ “ซื้อ”