LPN: หยวนต้า แนะนำ "SELL" ราคาเป้าหมาย 3.56 บาท/หุ้น
LPN DEVELOPMENT (LPN)
Thailand: Property Development
SELL (Downgrade)
TP upside (downside) -30.2%
Close Feb 11, 2021
Price 5.10
12M Target 3.56
ยังไม่ถึงเวลาเข้าลงทุน...
Earnings Results
บริษัทรายงานรายได้และกำไรสุทธิ 4Q63 ที่ 2.6 พันลบ (+95.7% QoQ, -35.1% YoY) และ 244 ลบ. (+137.5% QoQ, -60.3% YoY) ตามลำดับ ต่ำกว่าตลาดคาดอยู่ 14.1% ที่ 284 ลบ.
รายได้และกำไรที่เติบโตขึ้นเด่น QoQ มาจากการโอนโครงการแนวสูงเสร็จใหม่ทั้งสิ้น 3 โครงการ คือ Lumpini Park Boromarajonani Sirindhorn, Lumipini Ville Pattanakarn Srinakarin และ Lumpini Ville Sukhumvit 101/1 Punnawithi รวมมูลค่าโครงการ 3.7 พันลบ. แต่ลดลง YoY จากการมีโครงการแนวสูงเสร็จใหม่พร้อมโอนถึง 5 โครงการ รวมมูลค่า 7.5 พันลบ. ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อัตรากำไรขั้นต้น 4Q63 อยู่ที่ 28.1% ปรับตัวลดลง 223bps QoQ และ 187bps YoY จาก การใช้โปรโมชั่นลดราคาเพื่อส่งเสริมการระบาย Inventory
ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2563 อยู่ที่ 8.5 พันลบ. แม้เติบโตขึ้นกว่า 188% จากฐานที่ต่ำในปี 2562 แต่ยังหดตัวกว่า 18% 3-Yr. CAGR (ปี 2560-2563) ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2564 ที่ 8.9 พันลบ. (+5% YoY) แบ่งเป็นโครงการแนวราบ-แนวสูงที่ 5.5 พันลบ. และ 3.4 พันลบ. ตามลำดับ
บริษัทรายงาน Presale 4Q63 ที่ 2.2 พันลบ. (-10.0% QoQ, +29.2% YoY) แบ่งเป็นแนวราบ-แนวสูงที่ 643 ลบ. และ 1.5 พันลบ. ตามลำดับ เติบโตขึ้น YoY จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการรวมมูลค่า 3.8 พันลบ. มียอดขายแล้วราว 11%
Presale ทั้งปี 2563 อยู่ที่ 1.0 หมื่นลบ. เติบโตขึ้น 54% YoY จากปี 2562 ที่เปิดตัวโครงการใหม่เพียง 2.9 พันลบ.
Backlog ณ สิ้น 4Q63 อยู่ที่ 2.4 พันลบ. ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ คาดรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 ที่ 2.1 พันลบ. แบ่งเป็นแนวราบ-แนวสูงที่ 842 ลบ. และ 1.3 พันลบ. ตามลำดับ ทั้งนี้ Backlog โครงการแนวสูงทั้งหมดคาดเริ่มโอนช่วง 4Q64 ผลประกอบการ 9M64F จึงคาดยังไม่โดดเด่นเนื่องจากเป็นการระบาย Inventory เป็นหลัก
Our Take
เรามีมุมมองเป็นลบต่อ 1) Take-up rate โครงการเปิดตัวใหม่ที่ทำได้เพียงราว 11% ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 25-30% 2) Backlog คาดรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 ที่ 2.1 พันลบ. คิดเป็น Secure revenue เพียง 28% ของประมาณการรายได้ทั้งปี 2564 ของเราที่ 7.5 พันลบ. 3) เป้าหมายการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2564 ที่ 8.9 พันลบ. (+5% YoY) ซึ่งยังอนุรักษ์นิยมเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่ตั้งเป้าการเติบโต 10-28% และ 4) แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมที่ยังซบเซา ขณะที่การแข่งขันทางด้านราคาเพื่อกระตุ้นการระบาย Inventory ยังเป็นกลยุทธ์หลักของอุตสาหกรรมในช่วง 1H64 เป็นปัจจัยกดดันรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น
คงประมาณการกำไรปกติปี 2564 ที่ 835 ลบ. แต่ปรับลดคำแนะนำเป็น ขาย แม้เงินปันผลงวด 2H63 คิดเป็น Dividend Yield จากราคาปิดวานนี้ที่สูงถึง 7.8% แต่ราคาหุ้นปัจจุบันสูงกว่าราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ที่ 3.56 บาท อยู่ถึง 30.2% เชิงกลยุทธ์จึงยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนจนกว่าจะมีปัจจัยบวกใหม่