หุ้นขนมหวานในตำนาน อาฟเตอร์ ยู : AU งบออกแล้ว ถ้าเพื่อนๆ นักลงทุนยังจำได้เป็นหุ้น IPO ที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงปลายปีที่แล้ว
วันแรกก็การเทรดราคาเปิดมาที่ 11.50 บาท แล้วทะยานราคาพุ่งขึ้นไป 200% ติด Ceiling กันเลยทีเดียว ถึงกับว่ามีแต่แรง bid ไม่มี offer ขายเลย
ลักษณะทางธุรกิจ
บริษัท อาฟเตอร์ ยู ดำเนินธุรกิจจำหน่ายขนมหวาน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
(1) ธุรกิจร้านขนมหวาน ภายใต้ชื่อ "ร้านอาฟเตอร์ ยู" และ "ร้านเมโกริ" และ มีจำนวนทั้งสิ้น 18 สาขา เพิ่มขึ้นมา 2 สาขาจากปีก่อนหน้า
(2) ธุรกิจบริการจัดงานนอกสถานที่และการรับจ้างผลิต เช่น งานสังสรรค์ งานแต่งงาน งานกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขาย
ผลประกอบการ AU ?
รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเป็น 606.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 414.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.4% เนื่องจากการเติบโตของสาขาเดิมเพิ่มขึ้น
มีรายได้อื่นมา 2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาท อันเนื่องมาจากค่าชดเชยความเสียหายจากการก่อสร้างล่าช้า
กำไรขั้นต้นปีล่าสุดอยู่ที่ 388.6 ล้านบาท คิดเป็นกำไรขั้นต้นร้อยละ 64.1 เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 62.3 %
กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 98.8 ล้านบาท เติบโตมาจากปีก่อนหน้าที่ 57.5 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 16.2 % เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 13.9%
สำหรับส่วนของค่าใช้จ่าย
- ด้านการขาย เพิ่มขึ้นเป็น 178.5 ล้านบาท จากปีก่อน 122.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมา 56.4 ล้านบาท หรือ 46%เนื่องมาจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น
- ด้านการบริหาร เพิ่มขึ้นเป็น 84.2 ล้านบาท จากปีก่อน 25.9 ล้านบาท เนื่องจากว่าจ้างพนักงงานในสำนักงานใหญ่มากขึ้น
- ด้านทางการเงิน เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่ 6.8 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 5.7 ล้านบาท ร้อยละ 1.4 เนื่องมาจากเงินกู้ระยะยาวจากธนาคารไว้ใช้ซื้อที่ดินและก่อสร้างโรงงาน อุปกรณ์
จากวันนั้นถึงวันนี้ ร่วมเกือบ 2 เดือนแล้ว ราคาหุ้นของ AU เป็นอย่างไรบ้าง ?
ราคาหุ้น IPO ที่ 4.50 บาท เปิดตลาดเทรดวันแรกที่ราคา 11.50 หลังจากนั้นไม่กี่วันหุ้นวิ่งขึ้นทำราคา High สูงสุดที่ 15.20 บาท และ Low ต่ำสุดที่ 11.40 บาท
- จนล่าสุดราคาหุ้นกลับมาเกือบ ณ จุดเริ่มต้นที่ 11.70 บาท (ข้อมูลถึงวันที่ 21/02/60) เกือบเท่ากับการเทรดวันแรกเลย โดยล่าสุด เทรดกันอยู่ที่ P/E ประมาณ 90 เท่า ! มีบางช่วงทะลุ 100 เท่าไปแล้ว
ดังนั้น สะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนที่สูงมากเมื่อเทียบกับความสามารถในการเติบโตทางด้านกำไรของบริษัท
- จากจำนวนทั้ง 18 สาขา ด้วย Market Cap. ที่ 8,555 ล้าน เป็นอะไรที่สูงมาก ถ้าดูโดยเฉลี่ยแสดงว่าสาขาละ 475 ล้านบาท
มันสูงขนาดนั้นไหม ? เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องประเมินมูลค่าดูจะแพงไปหรือเปล่า เราให้พรีเมียมกับตัวหุ้นมากเกินไปหรือไม่ ?
- ถ้าจะให้ AU เป็นธุรกิจที่เติบโตได้ต่อไป จำเป็นจะต้องเป็นตลาดกว้างขึ้น คือ ให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงร้านได้ คนทั่วไปสามารถไปพบไปนั่งคุยธุรกิจได้เช่นร้านสตาร์บัค ซึ่งในปัจจุบัน AU ยังไม่ได้ไปถึงขนาดนั้น คนมักจะเข้าไปพบปะคุยถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ประมาณ 0.5 - 1 ชั่วโมง หรือเข้าไปชิมกับคู่รัก จีบกันแฟนใหม่ๆ อะไรแบบนั้น แต่จะให้นั่งคุยธุรกิจแบบสตาร์บัค มันยังไม่ถึงจุดนั้น ที่ทุกคนอยากเข้าไปนั่งไปทำงานหรืออ่านหนังสือในร้านอย่างต่อเนื่อง
- ทั้งนี้นักลงทุนยังคงต้องติดตามว่าแผนธุรกิจของ AU ที่ต้องการขยายสาขาไปทั่วประเทศ ตามหัวเมืองใหญ่ๆ จะทำได้หรือไม่ แล้วเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่ายต่อการเปิดสาขาหนึ่ง อีกทั้งยังมีต้นทุนทางการเงินค่าเช่าที่ ซึ่งค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ใครยังมีหุ้น AU ตั้งแต่วันแรกอยู่บ้าง หรือใครยังติดดอยกันอยู่บ้าง สามารถแชร์ประสบการณ์กันมาได้นะครับ