OR เผยปีนี้จ่อปิดดีลนอนออยล์ 5 ราย-ขยาย 50 สาขา ลุ้นยอดขายน้ำมันโต 10%

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในงาน “Empowering All towardInclusive Growth เติมเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” ว่า ช่วงที่เหลือของปี 65 บริษัทเตรียมปิดดีลร่วมทุนธุรกิจ non-oil อีกจำนวน 5 ราย ได้แก่ ธุรกิจอาหารเครื่องดื่มและบริการ ,ธุรกิจ SME ,สตาร์ทอัพ โดยมีขนาดธุรกิจตั้งแต่ระดับองค์กร ,SME และสตาร์ทอัพ

.

บริษัทยังคงงบลงทุนรวม 5 ปี (65-69) ที่ 9.6 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มพอร์ตให้มากกว่าธุรกิจพลังงาน พร้อมวางเป้าขยายสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่นในประเทศครึ่งปีหลังอีก 50 สาขา เพื่อสิ้นปีนี้ครบ 2,130 สาขาจากปัจจุบัน 2,080 สาขา

.

ส่วนต่างประเทศ สิ้นปีนี้จะเห็นขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขั้นต่ำ 1 ประเทศ จากเป้าหมายปี 73 ขยายเพิ่มเป็น 100 ประเทศ ทั้งการร่วมลงทุน และขายแฟรนไชส์ จากปัจจุบันมี 10 ประเทศ

.

ปีนี้คาดปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเติบโต 8-10% จากครึ่งปีแรกมียอดการจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นแล้ว 6-8% ได้ปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น คนเดินทาง ทำให้เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจ non-oil มียอดขายดีขึ้นด้วยขณะที่ซัพพลายน้ำมันขาดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

.

ทั้งนี้ มองแนวโน้มครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาส 3 ที่มีวันหยุดค่อนข้างเยอะ และไตรมาส 4 เข้าไฮซีซั่นของท่องเที่ยว ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหนุนให้ปริมาณการขายน้ำน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นได้

.

สำหรับค่าการตลาด ปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมันดีเซลภาครัฐยังดูแลควบคุมดูแลไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดน้ำมันเบนซินพื้นฐาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ยังคงใช้นโยบายเดิม

.

ส่วนวิกฤตการเงินในเมียนมา ที่ทางการออกมาระงับการชำระหนี้ต่างประเทศ OR ไม่ได้รับผลกระทบ ปัจจุบัน OR มีธุรกิจในเมียนมา 2 ธุรกิจ คือ ร่วมลงทุนสร้างคลังน้ำมัน LPG ซึ่งการก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 80% การชำระเงินให้กับผู้รับเหมายังไม่มีปัญหา และขายแฟรนไชส์ร้านคาเฟ่ อเมซอน 6 สาขา ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจได้ปกติ

 

 

***********************************