เปิดโผ 10 บริษัทใน ดัชนี SET100
ที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงสุดประจำปี 65

.
อีกหนึ่งหลักการที่ทำให้บริษัทมีความน่าสนใจ คือ ความสามารถในการทำกำไร หรือที่เรียกว่าอัตรากำไรสุทธิ ถ้าบริษัทไหนมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับที่สูง ย่อมเป็นที่สนใจของนักลงทุน แต่อย่าลืม บางบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิสูงก็จริง แต่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินธุรกิจ เพราะมีบางส่วนที่บันทึกรายการพิเศษ จนทำให้อัตรากำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น
.
ก่อนอื่นต้องอธิบายกันก่อนว่า Net Profit Margin หรือ อัตรากำไรสุทธิ จะการบอกความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ว่า มีกำไรสุทธิคิดเป็นสัดส่วนเท่าไรจากรายรับทั้งหมดของบริษัท กล่าวคือ รายได้ทั้งหมดที่บริษัทได้รับ เมื่อหักต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดอกเบี้ยและภาษี จะเหลือเป็นกำไรสุทธิทั้งหมดเท่าไหร่
.
ดังนั้น Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาสำรวจดูว่า บริษัทจดทะเบียน SET100 ในตลาดหุ้นไทยรายไหน ที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงสุด 10 อันดับแรก (ไม่รวม INTUCH)
.
อันดับ 1 PSL รายงานผลกำไรสุทธิปี 2565 สูงสุดในรอบ 14 ปี ที่ 4,850.79 ล้านบาท เทียบปี 2564 อยู่ที่ 4,474.93 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 9,146.64 ล้านบาท เทียบปี 2564 อยู่ที่ 8,814.29 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 53.03%โดยมีการซื้อเรือเพิ่ม 2 ลำ ทำให้ปี 65 มีเรือ 38 ลำ เมื่อเทียบกับ 36 ลำในปี 2564
.
อันดับ 2 BCPG รายงานผลกำไรสุทธิปี 2565 มีกำไรสุทธิ 2,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.8% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 2,010 ล้านบาท หลังจากมีการบันทึกรายได้จากรายการพิเศษรวม 563 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 64 ที่มีการบันทึกขาดทุนจากรายการพิเศษรวม 273.5 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิมีการเติบโต โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 47.35%
.
อันดับ 3 RCL รายงานกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกที่ 24,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปี 2564 เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือที่ปรับตัวขึ้น 24% ในขณะที่ปริมาณการขนส่งตู้สินค้าเพิ่มสูงเพียง 1.4% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 47.16%
.
ถัดมาอันดับ 4 AWC รายงานปี 2565 มีกำไรสุทธิตามงบการเงิน เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและการบริการที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
.
ตั้งแต่มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 อีกทั้งบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกซึ่งสามารถดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพจากทั่วโลกให้เข้ามาพักในกลุ่มบริษัทได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 41.45%
.
อันดับ 5 TCAP ในปี 2565 แม้จะรายงานกำไรสุทธิลดลง 1.27% แต่บริษัทยังมีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 41.34% โดยกำไรสุทธิที่ลดลง จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลง เนื่องจากในปี 2564 มีรายการพิเศษจากการโอนกลับสํารอง NPA ประกอบกับมีกําไรจากการรับชําระหนี้รายใหญ่ หากไม่รวมรายการพิเศษจากการโอนกลับสํารอง NPA ดังกล่าว จะมีกําไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13.7%
.
อันดับ 6 GUNKUL มีอัตรากำไรสุทธิ 39.84% ซึ่งในปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.04% จากปีก่อน ถัดมาอันดับ 7 THANI ในปี 2565 มีอัตรากำไรสุทธิ 39.45% มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.79% จากปีก่อน ขณะที่อันดับ 8 SAWAD ปี 2565 มีอัตรากำไรสุทธิ 39.32% แต่รายงานผลดำเนินงานปี 2565 ลดลง 5.2% จากปีก่อน
.
อันดับ 9 AMATA มีอัตรากำไรสุทธิ 38.87% โดยปี 2565 มีกำไรสุทธิ 2,341.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,402.28 ล้านบาท และสุดท้าย JMT มีอัตรากำไรสุทธิ 37.63% ซึ่งในปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.65% จากปีก่อนอยู่ที่ 1,400.37 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทต่อเนื่องเป็นปีที่ 7