ห้องเม่าปีกเหล็ก

โบรกคาด ‘พลังงานทนแทน’ โตกระโดด

โดย หญิงแม้น
เผยแพร่ :
89 views

โบรกคาด ‘พลังงานทนแทน’ โตกระโดด

 

 

บล.กสิกรไทย มองกลุ่มพลังงานทดแทนปี 2560 "สดใสกว่าปีนี้" หลังภาครัฐเตรียมเปิดให้ใบอนุญาต "โครงการใหม่" ต่อเนื่อง

 

บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า เราชอบกลุ่มพลังงานทดแทน เพราะมองว่าภายรวมปี 2560 นั้นสดใสมากกว่าปีนี้ สืบเนื่องจากคาดการณ์ที่ว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน การประมูลโควต้าส่วนที่สองของโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ (Solar farm) ของรัฐบาลสำหรับหน่วยงานสหกรณ์เกษตร และการประมูลโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลในรูปแบบการแข่งราคา ทั้งนี้ เราเลือก ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง (TPCH) เป็นหุ้นเด่นสุด เนื่องจากมองว่าบริษัทจะรายงานอัตราการเติบโตกำไรเฉลี่ยต่อปีที่แข็งแกร่งที่สุดที่ 136%ในปี 2559-2561

ส่วนการประกาศผลโครงการขยะอุตสาหกรรมเมื่อ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 5 ราย มีกำลังการผลิตรวมกันทั้งหมด 41.83 เมกะวัตต์ จากที่กำหนดไว้ทั้งหมด 50 เมกะวัตต์ โดย 2 ใน 5 บริษัท ได้แก่ ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ได้รับกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และสัญญาขายไฟ 7 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาเป้าหมายของหุ้นราว 0.8-1 บาท และเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรของบริษัทราว 100 ล้านบาท

ขณะที่ โกลว์ พลังงาน (GLOW) ซึ่งร่วมทุนกับดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ฝ่ายละ 50% ได้รับกำลังการผลิตรวม 8.6 เมกะวัตต์ และสัญญาขายไฟ 6.9 เมกะวัตต์ คาดว่าจะช่วยหนุนราคาเป้าหมายราว 1%หรือ 0.5 บาทต่อหุ้น และช่วยหนุนกำไรตั้งแต่ปี 2563 ราว 50-60 ล้านบาท โดยปัจจัยหนุนต่อทั้ง 2 บริษัทนี้ อิงจากสมมติฐานว่า จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ช่วงต้นปี 2563 ใช้งบลงทุน 120 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ และได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี ด้วยค่า FiT ที่ 6.78 บาทต่อกิโลวัตต์ ในช่วง 8 ปีแรก และ 6.08 บาทต่อกิโลวัตต์ ในช่วงอายุสัญญาที่เหลือ โดยคาดว่าผลตอบแทนโครงการ (IRR) ที่ 17-19%

ด้านนายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) CWT กล่าวว่า การที่บริษัทไม่ได้รับคัดเลือกในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมล่าสุดนี้ เบื้องต้นคาดว่าเป็นผลจากการที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อาจจะได้รับข้อมูลไม่เพียงพอ หรือเข้าใจผิดในบางประเด็น ซึ่งบริษัทจะใช้สิทธิชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม และหลังจากนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับ กกพ. ว่าจะพิจารณาอย่างไร

“เบื้องต้นคงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าบริษัทไม่ผ่านการคัดเลือกด้วยสาเหตุใด แต่คาดว่าคงเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดบางประการต่อข้อมูลที่ยื่นไป ซึ่งบริษัทจะใช้สิทธิในการชี้แจงชี้มูลดังกล่าว และหวังว่าบริษัทอาจจะได้รับพิจารณาให้สัญญาในส่วนของโควต้ากำลังการผลิตที่เหลืออยู่ราว 8 เมกะวัตต์”

อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะพลาดโครงการนี้ไป แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อแผนของบริษัทที่จะรุกธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มตัว เพราะยังมีโครงการอีกมากที่จะทยอยประกาศออกมา อาทิ โครงการขยะชุมชน และเชื่อว่าแผนที่จะนำบริษัทย่อย คือชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ (CWTG) เข้าจดทะเบียนในปี 2561 จะยังเป็นไปตามที่วางไว้

 

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก..กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 


หญิงแม้น