สรุปข่าว เศรษฐกิจต้องรู้ ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566

สรุปข่าว #เศรษฐกิจต้องรู้ ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566

โดยมีหัวข้อข่าวที่น่าสนใจดังนี้

.

ชี้เศรษฐกิจดิจิทัลไทยขยับสู่ 1.2 ล้านล.

หุ้นไทยวูบ 15% หนักสุดในโลก

ธุรกิจพลังงานโกยกำไรอื้อ

.

ติดตามอ่านรายละเอียดตามนี้ได้เลยครับ

.

ประเด็นเชิงบวก

.

รถไฟฟ้าสีชมพูปลุกตลาดคอนโดคึก | มติชน

ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ-รามอินทราที่ดินพุ่ง 3แสน/ตร.ว.ชี้ราคายังขึ้นต่ออีกเท่าตัว รถไฟฟ้าสายสีชมพู'แคราย-มีนบุรี'ปลุกตลาดคอนโด แจ้งวัฒนะ รามอินทราคึก ผุด 38,192 ยูนิต มูลค่ากว่า 6.8 หมื่นล้าน ราคาที่ดินพุ่งแตะ 3 แสนบาท/ตร.ว. คาดราคายังวิ่งต่ออีกเท่าตัว

.

คอนโดเปิดใหม่กลุ่มบีมาแรง 'อาเวีย' ปลื้มยอดขายโต 20% | ไทยโพสต์

นางสาวพจมาน วรกิจโภคาทร หัวหน้างานที่ปรึกษา ที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมไตรมาส 3 ปี 2566 ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ ทั้งการกลับมาของกำลังซื้อที่ช้าแซงหน้าอุปสงค์ที่ฟื้นตัว แม้จะมีอุปทานใหม่เติมเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยูนิตสะสมที่เหลือสำหรับขายในโครงการราคาต่ำเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบจากอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลาง รวมไปถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในบางกลุ่มยังอยู่ในสภาวะทรงตัวถึงถดถอย อย่างไรก็ตาม กลุ่มคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่มาแรงสุดอยู่ในกลุ่มเกรด B ราคาขาย 80,000-149,999 บาท/ตร.ม.

.

ธุรกิจพลังงานโกยกำไรอื้อ | ไทยโพสต์

Q3 บางจากทำนิวไฮ/TOP กวาด 1.08 หมื่นล้าน กลุ่มบริษัทพลังงานโชว์ผลประกอบการ Q3/66 บางจากทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้าน TOP โชว์กำไรทำได้ 1.08 หมื่นล้านบาท ส่วน GPSC ปลื้มชนะประมูลโครงการโซลาร์ กำลังการผลิต 1.4 กิกะวัตต์

.

ชี้เศรษฐกิจดิจิทัลไทยขยับสู่ 1.2 ล้านล. | ไทยรัฐ

นางแจ็คกี้ หวาง ผู้อำนวยการประจำ กูเกิล ประเทศไทย กล่าวระหว่างการเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉบับที่ 8 ซึ่งกูเกิล, เทมาเสก และ Bain & Company ได้ร่วมกันจัดทำว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แต่เศรษฐกิจดิจิทัลไทยจะสามารถเติบโตได้อย่างน่าทึ่ง โดยคาดว่ามูลค่าสินค้ารวมจะขยับขึ้นสู่ 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้ หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท เติบโต 16% โดยยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาครองจากอินโดนีเซีย และคาดว่าจะมีมูลค่ารวมแตะ 50,000 ล้านเหรียญ และทะลุ 100,000 ล้านเหรียญ ภายในปี 2568 และ 2573 ตามลำดับ

.

ประเด็นเชิงลบ

.

หุ้นไทยวูบ 15% หนักสุดในโลก | เดลินิวส์

เฟทโก้ชี้ขาดเงินเย็นสนับสนุน เงินไหลออกฉุด 'ไอพีโอ' เดี้ยง นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันปรับลดลงอย่างรุนแรงถึง 15% ซึ่งถือว่าลดลงมากสุดในโลก เนื่องจากขาดเงินจากนักลงทุนระยะยาวเข้ามาสนับสนุน ขณะที่หุ้นโลกในปีนี้ฟื้นตัวเฉลี่ยประมาณ 10% ส่งผลให้ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยหรือเฟทโก้ เตรียมเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กลางเดือนพ.ย.นี้ เพื่อหารือจัดตั้งกองทุนระยะยาว เสริมสภาพคล่องตลาดหุ้นไทย เช่น แนวทางการฟื้นกองทุนรวมหุ้นระยะหรือแอลทีเอฟ รวมถึงปรับปรุงกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว หรือเอสเอสเอฟ ที่จะหมดอายุในปี 67 หรือจัดตั้งกองทุนใหม่ๆ เช่น การลงทุนเกี่ยวกับหุ้นยั่งยืน

.

ประเด็นข่าวทั่วไป

.

ชง '2 รูปแบบ' กองทุนออมหุ้น 'เฟทโก้' หวังดึงเงินระยะยาวไหลเข้าตลาดทุนไทย | กรุงเทพธุรกิจ

"ไอเอเอ" ชี้ปีนี้หุ้นไทย ดิ่งหนักสุดในโลก 15% "เฟทโก้" จ่อเสนอ 2 รูปแบบตั้งกองทุนออมหุ้นระยะยาว "ต่ออายุ SSF แต่ใช้เงื่อนไข LTF-ระยะเวลาสั้นลง" พร้อมชงออกกองทุนธีมการลงทุนใหม่ๆ นายกสมาคมนักวิเคราะห์ ชี้ ดัชนีหุ้นไทยปีนี้ดิ่งมากสุดในโลก 15% เหตุขาดเม็ดเงินลงทุนระยะยาวมาพยุง ดัชนีเชื่อมั่นลงทุนเดือนม.ค.67 วูบ 31.5% ฟันด์โฟลว์ ไหลออก-สงคราม

.

กังวลอิสราเอล-เงินไหลออก | สยามรัฐ

ดัชนีความเชื่อมั่น FETCO ปรับลงสู่เกณฑ์ซบเซา-หวังปัจจัยหนุนมาตรการกระตุ้น ศก. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนต.ค.66 (สำรวจระหว่างวันที่ 20-31 ต.ค.66) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 76.87 ปรับลง3 1.5% จากเดือนก่อนหน้าลงมาอยู่ในเกณฑ์ซบเซา โดยนักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุดรองลงมาคือคาดหวังการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ในขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุดได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รองลงมาคือการไหลออกของเงินทุน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

.

ธกส.ทุ่ม 20,000 ล. อุ้ม 'เกษตรสูงวัย' ดึงทายาทร่วมแก้ | ไทยโพสต์

"ธ.ก.ส." ผุดแคมเปญแทนคุณ แทนใจ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท วางเป้าดึงทายาทเกษตร ร่วมบริหารจัดการหนี้และรักษาทรัพย์สินของครอบครัว

.

กบข.ย้ำไม่มีการจ่ายเงินปันผล เตือนอย่าเชื่อมิจฉาชีพหลอกลวง | สยามรัฐ

ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งพฤติกรรมมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กบข. พยายามหลอกลวงสมาชิก โดยใช้เบอร์ส่วนตัวโทรหาสมาชิก เพื่อแจ้งเรื่องการจ่ายเงินปันผลหลังจากนั้นให้สมาชิกเพิ่มเพื่อนทางไลน์ปลอม ที่ใช้ชื่อว่า กองทุน กบข. GPF และได้ใช้ไลน์โทรหาสมาชิกโดยตรงเพื่อให้ทำรายการผ่านทางเว็บไซต์ปลอม

.

'คลัง' ปั้นจุดคืนแวตเบ็ดเสร็จ | เดลินิวส์

เพิ่มวงเงินสินค้าไม่ต้องสำแดง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณามาตรการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการลดขั้นตอนการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ แวต รีฟันด์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติ ซึ่งได้หารือร่วมกับกรมสรรพากรและกรมศุลกากร ถึงแนวทางการลดขั้นตอน เช่น การจัดตั้งจุดให้บริการคืนภาษีเพียงจุดเดียว เพื่อให้บริการพิธีการตรวจสินค้าจากกรมศุลกากรและการคืนภาษีของกรมสรรพากรมาไว้ที่เดียวกัน จากปัจจุบันที่ต้องแยกไปสองส่วนทั้งผ่านพิธีศุลกากร จากนั้นถึงไปขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากสรรพากร

.

ธปท.ย้ำโมบายแอปปลอดภัย | เดลินิวส์

รายงานข่าวจากสมาคมธนาคารไทย เปิดเผย ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมโปรแกรมเมอร์ ขายโปรแกรมเพื่อโอนเงินและปลดล็อกการสแกนใบหน้าในแอปธนาคาร เพื่อทำให้การโอนเงินสามารถโอนผ่านโปรแกรมและให้ยกเลิกเงื่อนไขการสแกนใบหน้า ในกรณีที่มีการโอนเงินที่มีจำนวนตั้งแต่ 50,000 บาท นั้น จากการตรวจสอบระบบของภาคธนาคาร โปรแกรมนี้ไม่สามารถใช้กับบัญชีลูกค้าทั่วไปได้ เนื่องจากโปรแกรมจะใช้งานได้ ต้องมีข้อมูลของเจ้าของบัญชีทั้งหมด ทั้งข้อมูลส่วนบุคคล คือเลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรประชาชน ซิมโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ที่ใช้กับโมบายแบงกิ้ง ข้อมูลการยืนยันตัวตน ทั้งรหัสโมบายแบงกิ้ง รหัสโอทีพี และการสแกนใบหน้า

.

คปภ.แบนตัวแทนประกัน 5 ปี โต้ข่าว 'แฮกข้อมูลล้านรายชื่อ' | เดลินิวส์

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. ได้ลงโทษเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตแก่นายพศิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี หลังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้จับกุมฐานมีพฤติกรรมลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปขายให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายกระทง อาทิ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ คปภ. พ.ร.บ.ประกันชีวิต พ.ศ.2535 เป็นต้น

.

แสนสิริทุบราคารีเซล 1 ล้าน/ตร.ม. | ข่าวสด

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เบอร์ต้นของประเทศไทยเปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดราคาขายต่อห้องโครงการ The Monument Thong Lo (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) หลังจากที่โครงการได้สร้างเสร็จแล้ว (รีเซล) สามารถสร้างสถิติของราคารีเซลให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้ใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นห้องเพนต์เฮาส์ มีเพียง 1 ยูนิตในโครงการ และเป็นห้องที่หายากในทำเลนี้ ภายใน 3 ปี สามารถทำราคารีเซลได้สูงถึงราว 3 เท่าตัว หรือคิดเป็นตารางเมตรละเกือบ 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นการทำราคาคอนโดฯ รีเซลสูงที่สุดครั้งแรกในทองหล่อ

.

"ปตท.-บุญรอด" พัฒนาต่อยอดวัสดุเหลือใช้ | ไทยรัฐ

นายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท., บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามความร่วมมือพัฒนา นวัตกรรมต่อยอดวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิต สร้างผลิตภัณฑ์หมุนเวียน (Returnable Equipment) ที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเดินหน้าโครงการนำร่องรีไซเคิลพลาสติก ผ่านผลิตภัณฑ์ต้นแบบอย่างลังน้ำ และโซดาขวดเปลี่ยน ผลิตจาก rPET และ rHDPE พาเลต (Pallet) ผลิตจาก rHDPE และกากมอลต์

.

แจงสี่เบี้ยปมน้ำมันขาดตลาด | ไทยรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนเป็นจำนวนมากได้ร้องเรียนว่าปั๊มน้ำมัน โดยเฉพาะในพื้นที่ปริมณฑล และต่างจังหวัดบางแห่ง ขึ้นป้ายติดที่หัวจ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และเบนซิน 95 ว่า หมด โดยให้เหตุผลว่ารถบรรทุกน้ำมันไม่สามารถขนส่งน้ำมันมาให้แต่ละปั๊มได้ทัน ซึ่งอาจเป็นผลจากที่รัฐบาลได้ประกาศปรับลดราคาน้ำมันลงเมื่อวันที่ 2 พ.ย. และให้มีผลวันที่ 7 พ.ย.2566-31 ม.ค.2567 แบ่งเป็นปรับลดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลงลิตรละ 2.50 บาท, น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลงลิตรละ 1 บาท ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 และอี 85 ลงลิตรละ 80 สตางค์ สาเหตุที่ประกาศตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. และให้มีผลวันที่ 7 พ.ย. เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับตัว ระบายน้ำมันสต๊อกเก่าในคลังน้ำมัน จำหน่ายราคาใหม่ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าปั๊มน้ำมันในต่างจังหวัดหลายพื้นที่ยังจำหน่ายสต๊อกเก่าไม่หมด จึงใช้วิธีติดป้ายประกาศหมดแทน

--