ลงทุนตามสภาวะตลาดกระทิงและตลาดหมีเป็นอย่างไร?

หนึ่งในกลยุทธที่สําคัญที่สุดที่นักลงทุนควรจะรู้ก็คือ ตลาดอยู่ในสภาวะกระทิงหรือหมี?  โดยการคาดการณ์แนวโน้มของ Fed Fund Rate รอบใหญ่เพราะแนวโน้มของ Fed Fund Rate รอบใหญ่จะเป็นตัวที่จะเป็นตัวกําหนดว่าตลาดมีทิศทางอย่างไร? หรือที่เรียกว่า " ตลาดจะอยู่ในสภาวะกระทิงหรือหมี ? " นั่นเอง

คําถามก็คือ " แนวโน้มของ Fed Fund Rate รอบใหญ่กําหนดสภาวะตลาดได้อย่างไร?  "

คําตอบก็คือ " แนวโน้มของ Fed Fund Rate รอบใหญ่ จะเป็นตัวชี้วัดว่าเงินทุนจะไหลไปทางไหนระหว่างตลาดตราสารหนี้กับตลาดตราสารทุน "

และคําตอบต่อมาก็คือ " โดยถ้า Fed Fund Rate มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ แสดงว่าเงินทุนจะไหลออกจากตลาดตราสารหนี้มายังตลาดตราสารทุน แลัวจะทําให้ตลาดอยู่ในสภาวะกระทิง "

 และคําตอบต่อมาก็คือ " และเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ตลาดจะเข้าสู่สภาวะหมี แสดงว่าแนวโน้มของ Fed Fund Rate จะกลับข้างเป็นแนวโน้มขาลงรอบใหญ่ เพราะเงินทุนจะไหลออกจากตลาดตราสารทุนกลับไปยังตลาดตราสารหนี้ "

แล้วทําไมเงินทุนมันไหลไปไหลมาหล่ะ คร๊าบ พี่น้อง " ก็เพราะมันเป็นธรรมชาติของเงินทุนที่มักจะไหลจากสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนตํ่า ไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเสมอ ซึ่งกลับกับธรรมชาติของนํ้าที่มักไหลจากที่สูงลงมาสู่ที่ตํ่าเสมอ นั่นเอง " 

" ข้ออธิบายเพิ่มเติมก็คือในช่วงที่ Fed Fund Rate เป็นขาขึ้นรอบใหญ่นั้น แสดงว่าเศรษฐกิจโดยรวมดี และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มักจะมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมี Capital Gain และผลตอบแทนในแง่เงินปันผลที่สูง การลงทุนในตลาดตราสารทุนจึงมักจะให้ผลตอบแทนดีในช่วงนี้เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และจะกลับกันในช่วงที่ Fed Fund Rate เป็นขาลงรอบใหญ่ "

และ เพราะสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ " ตราสารหนี้ " ในขณะเดียวกันกับสินทรัพย์ที่มีขนาดรองลงมาคือ " ตราสารทุน " เพราะฉะนั้นเงินลงทุนจึงมักจะเลือกไหลไปไหลมาระหว่างสองสินทรัพย์นี้ เพราะสภาพคล่องที่สูงนั่นเอง ตามสถิติในอดีต ดังนี้ คือ :

1) เดือน มีนาคม ปี ค.ศ 2000             :  Down Jones = 11,732 จุด และ Fed Fund Rate = 6.50%

2) เดือน ตุลาคม ปี ค.ศ 2003             : Down Jones = 7,717 จุด และ Fed Fund Rate = 1.00% ( ฟองสบู่ดอทคอม )

3) เดือน มิถุนายน ปี ค.ศ 2006           : Down Jones = 14,167 จุด และ Fed Fund Rate = 5.25%

4) เดือน มีนาคม ปี ค.ศ 2009             : Down Jones =  6,547 จุด และ Fed Fund Rate = 0.25% ( วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์  )

5) วันที่ 3 ตุลาคม  ปี ค.ศ 2018          :  Down Jones = 26,951 จุด ( All Time High ) และ Fed Fund Rate = 2.25%

6) วันที่ 26 ธันวาคม  ปี ค.ศ 2018       : Down Jones  = 21,712  จุด ( Low รอบล่าสุด เพราะ FOMC ปรับ Fed Fund Rate บ่อยและถี่เกินไปถึง 4 ครั้งในเวลา 1 ปี คือปี ค.ศ 2018 )

7) วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 2019         : Down Jones = 26,091จุด และ Fed Fund Rate = 2.50%

8) ผู้โพสต์คาดการณ์ว่า " ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 " น่าจะเป็น ดังนี้ คือ :

8.1) Fed Fund Rate น่าจะอยู่ที่ อย่างตํ่า 3.00% ( จาก 0.25% เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี พ.ศ 2558 ซึ่งเป็นวันที่ปรับ Fed Fund Rate ขึ้นเป็นวันแรกเป็น 0.50% )

8.2) ดาวโจนส์น่าจะอยู่ที่ อย่างตํ่า 30,000 จุด ( 63.64% จาก 18,333 จุด ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ซึ่งเป็นวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้วหนึ่งวัน ) 

8.3) Set Index น่าจะอยู่ที่ อย่างตํ่า 2,461 จุด ( 63.64% จาก 1,510 จุด ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ซึ่งเป็นวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้วหนึ่งวัน )

หมายเหตุ : ที่มาจาก ( www.bloomberg.com ) และ ( www.set.or.th )