ห้องเม่าปีกเหล็ก

RATCH หุ้นโรงไฟฟ้าธุรกิจแข็งแกร่งปันผลดี

โดย Forest
เผยแพร่ :
972 views

RATCH หุ้นโรงไฟฟ้าธุรกิจแข็งแกร่งปันผลดี

คาดปี 66 ผลงานเด่น ลุ้นผลตอบแทนสูง 5%

 

.

“หุ้นโรงไฟฟ้า” เป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นยอดนิยมของนักลงทุน เพราะเป็นหุ้นที่มีความผันผวนด้านราคาค่อนข้างต่ำ ทนทานต่อทุกภาวะเศรษฐกิจ มีผลการดำเนินงานค่อนข้างเสียรภาพ และจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้หุ้นโรงไฟฟ้ามักจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำให้ DCA หรือเลือกเป็น Defensive Stock ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนเสมอ

.

สัปดาห์นี้ Wealthy Thai จึงมีหุ้นโรงไฟฟ้าอย่าง RATCH หรือ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มานำเสนอในแง่ของหุ้นปันผลดีและติดอยู่ในดัชนี SETHD มาดูกันว่า ที่ผ่านมา RATCH มีประวัติจ่ายปันผลเป็นอย่างไร และในปี 2566 มีแนวโน้มจะจ่ายเงินปันผลเท่าไหร่

.

โดย RATCH ทำธุรกิจด้านการลงทุนโดยถือหุ้นในบริษัท (Holding company) ที่ประกอบธุรกิจด้านการผลิตไฟฟ้า ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงาน ครอบคลุมพื้นที่การลงทุนในประเทศ และต่างประเทศ โดย ณ เดือนก.พ. 2566 บริษัทมีกำลังผลิตติดตั้งรวม 9,787 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น เชื้อเพลิงฟอสซิล 7,874.13 เมกะวัตต์ และ พลังงานทดแทน 1,913.20 เมกะวัตต์

.

ในด้านปันผล RATCH มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2565 บริษัทจ่ายเงินปันผลไปทั้งหมด 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 11.75 บาท ล่าสุดบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดผลประกอบการปี 2565 ที่ 0.80 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พ.ค. 2566 โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ระดับ 4.13% และติดอยู่ในลำดับที่ 19 ของดัชนี SETHD

.

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ปัจจุบัน RATCH มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ 84,281.25 ล้านบาท และมี P/E อยู่ที่ระดับ 14.58 เท่า (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มี.ค. 2566) โดยราคาหุ้นวันที่ 26 มี.ค. 66 อยู่ที่ 38.75 บาท ปรับตัวลดลง 9.30% จากช่วงต้นปี

.

ขณะที่บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่าปี 2566 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลที่ 2 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 5.1% ส่วนปี 2567 คาดจะจ่ายเงินปันผลที่ 2 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 5.1%

.

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานฝ่ายวิเคราะห์ ระบุว่า คาดกำไรปกติในไตรมาส 1/66 ของ RATCH จะเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 และพลิกจากขาดทุนในไตรมาส 4/65 ได้ เพราะ 1. ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงบางส่วนของโรงไฟฟ้าหงสาที่เป็นแหล่งกำไรหลักเหมือนในไตรมาส 4/65 และไตรมาส 1/65

.

2. การเริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนใน NEJV แบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก (ธุรกรรมเสร็จสิ้นในช่วงปลายไตรมาส 4/65, 3. อัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ SCG ที่เริ่มฟื้นตัวหลังต้นทุนก๊าซธรรมชาติเริ่มปรับตัวลงและ 4. ค่าใช้จ่าย SG&A ที่มีแนวโน้มลดลงจากฐานที่สูงในไตรมาสก่อนหน้า

.

ทั้งนี้ ปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลง 22% และ 5% เป็น 9,799 ล้านบาท โต 68% จากปีก่อน และ 11,502 ล้านบาท โต 17% จากปีก่อน ตามลลำดับ จากการปรับสัดส่วนการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า Paiton ลงเป็น 36.3% (จากเดิม 45.5%) และปรับสมมติฐานระยะเวลาการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการดังกล่าวในปี 2566 ลงเป็น 6 เดือน (จากเดิม 9 เดือน)

.

อย่างไรก็ตามกำไรปกติปี 2566 ยังสามารถเติบโตเด่นจากปี 2565 จากฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจาก 1. ไม่มีค่าที่ปรึกษาในการทำ M&A ที่สูงเหมือนปีก่อน, 2. การรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนใน NEJV แบบเต็มปี และ 3. การเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า Paiton หลังการเข้าลงทุนเสร็จสิ้น

.

ผลจากการปรับประมาณการกำไรลง ส่งผลให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ลดลงเป็น 53.00 บาท แต่ราคาหุ้นได้มีการปรับตัวลง หลังการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/65 ส่งผลให้ราคาปัจจุบันซื้อขายอยู่บน PER ปี 2566 เพียง 9 เท่า ทำให้ Downside เริ่มจำกัดแล้ว จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

 


Forest