ห้องเม่าปีกเหล็ก

ในวันที่ใคร ๆ ก็ใช้ AI ทำโฆษณาได้ แล้วแบรนด์เราจะ "แตกต่าง" ยังไง?

โดย eye
เผยแพร่ :
41 views

ในวันที่ใคร ๆ ก็ใช้ AI ทำโฆษณาได้ แล้วแบรนด์เราจะ "แตกต่าง" ยังไง?

.

ในโลกโฆษณาที่ไม่ได้หยุดแค่ความไวรัลแบบเดิมอีกต่อไป เพราะอนาคตของการสื่อสารการตลาด กำลังถูกท้าทายด้วย AI ที่ทันสมัยขึ้นทุกวัน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงแบบรายวัน การขายจึงไม่ใช่แค่ทำให้คนเห็น แต่ต้อง "ทำให้คนรู้สึก" และกลับมาซื้อซ้ำอย่างตั้งใจ แล้วในปี 2030 โลกโฆษณาจะเป็นอย่างไร? และผู้ประกอบการควรเตรียมรับมืออย่างไร?

.

 

การจะคาดการณ์อนาคต สิ่งที่เราทำได้ก็ศึกษาแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงมาจากอดีต โดยย้อนกลับไปในช่วงปี 2010 โลกของการโฆษณายังวนเวียนอยู่กับ TV นิตยสาร วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ แต่เมื่อ Facebook และ Instagram เริ่มเข้ามา พฤติกรรมผู้บริโภคก็เริ่มเปลี่ยนไป จนในช่วงปี 2015 โทรศัพท์มือถือก็กลายมาเป็นอวัยวะที่ 33 และวิดีโอไวรัล ก็กลายเป็นอาวุธทางการตลาดที่ทรงพลัง

.

จากนั้น Influencer ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในปี 2020 พร้อมกับความเชื่อใหม่ว่า "ใครก็เป็นผู้มีอิทธิพลได้ ถ้าจริงใจมากพอ" จนเข้าสู่ปี 2025 ช่วงที่เรากำลังอยู่ Short-form video เริ่มครองเวลาจากคนดู TikTok, Live Commerce และ AI-powered Ads กลายเป็นเรื่องธรรมดา และ Virtual Presenter ก็เริ่มที่บทบาทแทนมนุษย์

.

แล้วปี 2030 โลกโฆษณาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?

.

[1] โฆษณาแบบเดิมจะยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น TV หรือสื่อวิทยุ รวมไปถึง "หนังโฆษณา" แต่ก็จะมีรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น Immersive Experience หรือโลกเสมือนจริง ที่แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Apple, Google, Xiaomi ก็เพิ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยิ่งไปกว่านั้น ที่ประเทศญี่ปุ่น ผลิต TV ที่ส่งกลิ่นและชิมรสชาติผ่านหน้าจอได้

[2] มนุษย์จะยังมองหาอะไรเดิม ๆ เช่น จัดส่งเร็ว ราคาถูก ของดีมีคุณภาพ ดีต่อใจ ใช้งานง่าย น่าเชื่อถือ Customได้ บริการดี สะท้อนตัวตน ดีต่อโลก แก้ปัญหาที่มี สะดวก และมีประโยชน์ เป็นต้น แต่ก็จะมีความซับซ้อนและเข้าใจยากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความเชื่อ มุมมอง เหตุผล และทัศนคติต่าง ๆ ดังนั้น ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูล แต่เป็นการเก็บแล้วนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์จริง ๆ

[3] โลกจะเต็มไปด้วย AI แม้กระทั่งคำสอนของพระสงฆ์ ก็มี Video ที่ทำขึ้นจาก AI ซึ่งในอนาคตก็จะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ สิ่งที่จะเกิดการสวนกระแสของ AI คือมนุษย์จะมองหา "ความเป็นมนุษย์" มากยิ่งขึ้น

[4] โฆษณาจะเน้นที่ผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็น Coversion, ยอดขาย และตัวเลขต่าง ๆ ก็จะถูกนำเข้ามาวิเคราะห์และเป็นตัวชี้วัด แต่อย่างไรก็ตาม ความสร้างสรรค์ยังเป็น "หัวใจสำคัญ"

.

แล้วแบรนด์ควรรับมืออย่างไร?

.

คุณพงษ์ปิติได้เสนอแนวทาง "7E for 2030 Brands" ที่จะกลายเป็นกรอบคิดสำหรับแบรนด์ยุคใหม่ที่ต้องการ "อยู่รอด" และแตกต่าง:

[1] Entertain: สร้างความสนุก ให้คนอยากดู อยากแชร์

[2] Emotion: สร้างความผูกพันด้วยความรู้สึก

[3] Edge: มีจุดยืนที่เฉียบ แตกต่าง จำง่าย

[4] Exclusivity: ทำให้ผู้บริโภครู้สึก "พิเศษ" โดยการทำ Hyper Personalization

[5] Ethics: โปร่งใสและรับผิดชอบต่อสังคม

[6] Emergence: เปิดใจรับสิ่งใหม่ กล้าลองก่อนคนอื่น

[7] Empathy: เข้าใจมนุษย์ ให้ลึกกว่าข้อมูล

.

"อะไรที่ดูธรรมดาในวันนี้ อาจจะมีคุณค่าในวันหน้า"

— พงษ์ปิติ ผาสุขยืด

.

.

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER

ที่มา..  เพจTHE INSIDER - ดิ อินไซเดอร์


eye