ห้องเม่าปีกเหล็ก

รีดค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิ

โดย stock-news
เผยแพร่ :
69 views

ทอท.ร้องธนารักษ์ปรับค่าเช่าที่ราชพัสดุสนามบินสุวรรณภูมิใหม่ ขอคิดจากมูลค่าสินทรัพย์ จากเดิมคิดตามส่วนแบ่งกำไร ทำค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นก้อนโต

ประสงค์ พูนธเนศ,ทอท.,ค่าเช่าที่ราชพัสดุ,กรมธนารักษ์,สนามบินสุวรรณภูมิ

กรมธนารักษ์ เตรียมปรับเพิ่มค่าเช่าที่ราชพัสดุใหม่กับผู้เช่ารายใหญ่ทั้งบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT หรือ ทอท. โดยเฉพาะ ทอท.ที่ล่าสุดสัญญาได้หมดลงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษารูปแบบการปรับเพิ่มค่าเช่าใหม่



ปัจจุบัน ทอท.ประกอบธุรกิจ การจัดการ และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่



นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนวิธีคิดค่าเช่าที่ดินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกรมธนารักษ์ จะส่งผลดีและทำให้ ทอท. และกรมธนารักษ์ได้รับประโยชน์มากขึ้น



โดยปัจจุบันกรมธนารักษ์คิดค่าเช่าที่ดินท่าอากาศยาน 5 แห่งของ ทอท. ในรูปแบบผลตอบแทนต่อส่วนแบ่งส่วนกำไร (Profit Sharing) อยู่แล้ว ยกเว้นสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคิดในรูปแบบผลตอบแทนต่อการประเมินสินทรัพย์ (Return on Assets) ซึ่งวิธีไม่เป็นธรรมเพราะ Return on Assets จะหักผลตอบแทน 2-5% จากการประเมินทรัพย์สินทั้งหมด แต่ ทอท. ไม่ใช้พื้นที่ทั้งหมดในเชิงพาณิชย์ เช่น บริเวณด้านความปลอดภัยของเครื่องบิน ที่ตั้งหน่วยดับเพลิง เป็นต้น แต่บริเวณนี้กลับถูกคิดค่าเช่าด้วย



เมื่อกรมธนารักษ์เปลี่ยนรูปแบบเป็น Profit sharing ซึ่งคิดผลตอบแทน 5% จากส่วนแบ่งกำไรก็จะทำให้ค่าเช่าเป็นธรรมมากขึ้น อีกทั้งทำให้ ทอท. สามารถพัฒนาที่ดินในท่าอากาศสุวรรณภูมิอีกหลายพันไร่ในเชิงพาณิชย์ จากเดิมที่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะการจัดเก็บรายได้ยังไม่ชัดเจน



เงื่อนไขใหม่จะทำให้ ทอท. สามารถนำที่ดินไปในเชิงพาณิชย์ได้หลายสิบประเภทและเก็บรายได้จากค่าเช่า เช่น โรงพยาบาล โรงแรม ห้องสัมมนา เป็นต้น จากนั้นกรมธนารักษ์ก็จะหักส่วนแบ่งจากกำไรของ ทอท. อีกที อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทอท. และกรมธนารักษ์เพิ่งเห็นชอบในหลักการเท่านั้นจึงยังไม่มีแผนการพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจน



“ปัจจุบัน ทอท. ส่งค่าเช่าที่ดินให้กรมธนารักษ์หลักพันล้านบาท ซึ่งการปรับวิธีคิดค่าเช่าที่ใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเลขเปลี่ยนแปลงมากนักในตอนนี้ แต่ต่อไป ทอท. จะสามารถนำที่ดินไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้นและส่งค่าเช่าที่ให้กรมธนารักษ์เพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีและได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย” นายประสงค์กล่าว


ด้านแหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า การปรับวิธีการคิดอัตราค่าเช่าพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิใหม่ จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต



“เรามีคำถามว่า เหตุใด กรมธนารักษ์ จึงใช้วิธีการคิดเช่าที่สนามบินสุวรรณภูมิที่แตกต่างจากสนามบินอื่นอีก 5 แห่ง เพราะสนามบินสุวรรณภูมิก็คือสนามบินเช่นเดียวกันกับสนามบิน 5 แห่ง และการคิดค่าเช่าที่แตกต่างนี้ ทำให้ต้นทุนเราสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับการคิดค่าเช่าแบบเดิม”



แหล่งข่าวกล่าวว่า พื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยส่วนใหญ่เป็นที่ราบและว่างเปล่า ไม่ได้ใช้ประโยชน์เชิงหากำไร ซึ่งบริษัทจะต้องกันพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัยในการขึ้นลงของเครื่องบิน ขณะที่ กรมธนารักษ์นำมาคิดเป็นอัตราค่าเช่าในเชิงมูลค่าที่ดินทั้งหมด หากกรมฯจะคิดเช่นนั้น ก็จะมีผลต่อการคิดค่าบริการจากการบินที่มาใช้พื้นที่ของบริษัท ซึ่งก็จะกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม



อย่างไรก็ดี บริษัทจะเจรจาเรื่องวิธีการคิดอัตราค่าเช่าพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้ได้ข้อสรุปอีกครั้ง



ทั้งนี้บริษัทท่าอากาศยานไทยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ไตรมาส 1/2560 (ต.ค.- ธ.ค.2559) บริษัทได้จ่ายค่าตอบแทนการใช้ที่ราชพัสดุจำนวน 542.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.42% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ

 

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ



ด้านนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวว่า การปรับวิธีการคิดอัตราค่าเช่าสนามบินนั้น จะเป็นไปตามสัญญา โดยขณะนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินได้เสนอแนวทางการคิดอัตราค่าเช่าที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น โดยคิดบนมาตรฐานใหม่ คือ เก็บอัตราค่าธรรมเนียมครั้งแรกครั้งเดียว คิดค่าเช่ารายปี และ ส่วนแบ่งจากรายได้ โดยคิดเหมือนกันทุกสนามบิน



ชี้เอโอทีเสี่ยงกำไรหาย 20% ต่อปี



ขณะที่ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปีนี้ของเอโอที กำไรออกมาตามคาด แต่กลับต้องเผชิญความเสี่ยงที่ ทอท. ต้องเปิดเผยเพิ่มเติม คือ ที่ราชพัสดุผู้ให้สัมปทานสนามบินสุวรรณภูมิ 30 ปี ตั้งแต่ปี 2545 จะขอปรับเพิ่มค่าตอบแทนจากการใช้ที่ดิน (เมื่อครบอายุสัญญา 10 ปี) เป็น 5% ของรายได้จากสนามบินสุวรรณภูมิ และขอปรับเพิ่มผลตอบแทนอีก 5% ของมูลค่าทรัพย์สินสนามบิน เพิ่มขึ้นจากเดิมช่วง 10 ปีแรก จากที่ เอโอที จ่ายอยู่ที่ 5% ของรายได้



ทั้งนี้ เนื่องจากการเริ่มต้นนับวันเริ่มอายุสัญญาที่แตกต่างกัน คือ ที่ราชพัสดุเริ่มนับจากปี 2545 ขณะที่ เอโอที เริ่มนับตั้งแต่เปิดสุวรรณภูมิปี 2549 ส่งผลให้วันที่สัญญาครบอายุ 10 ปี แตกต่างกัน โดยถ้ายึดตามที่ราชพัสดุ จะระบุจะครบกำหนดปี 2555 ส่วนในมุมมองของเอโอที จะครบกำหนด 10 ปีในปี 2559 เป็นผลให้ที่ราชพัสดุยังเรียกร้องค่าเสียหายระหว่างปี 2555-2559 รวม 2.07 หมื่นล้านบาทด้วย



แม้ในลำดับถัดไป เอโอที ต้องเจรจาเงื่อนไขที่จะจ่ายที่ราชพัสดุอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากประเมินผลกระทบในกรณีเลวร้าย คือ ทอท.ต้องจ่ายตามที่ที่ราชพัสดุเรียกร้อง เบื้องต้นคาดว่าจะกระทบต่อกำไร ทอท. ปีละไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% จากกำไรต่อปี

 

 


stock-news